(*_*)แอปเปิ้ล ที่หลายๆ คนรู้จัก (*_*)




ในความรู้สึกของตัวนกเองคิดว่า รู้จักแอปเปิ้ลผลไม้เมืองหนาวเป็นอย่างดี แต่ในความจริงแล้วไม่ใช้อย่างทีคิดเลย แอปเปิ้ลที่ขายอยู่ในเมืองไทยมีหลากหลาย เช่นแอปเปิ้ลเขียว แิอปเปิ้ลแดง แอปเปิ้ลฟูจิ และก็พิงค์ลักกี้ และอีกหลาย ๆ แอปเปิ้ล ทั้งหมดคือแิอปเปิ้ลที่ได้ลิ้มลองเหมือนผลไม้้ทั่ว ๆ ไป ที่หาซื้อได้ในบ้านเรา แต่เมื่อมาต่างแดนนกพึ่งจะได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้รู้จักแอปเปิ้ลเลยแม้แต่นิด เดียว เพราะที่นี้แยกประเภทของแอปเปิ้ลไว้สำหรับปรุงอาหารและไว้สำหรับกินเหมือนผล ไม้ทั่วๆ ไป ถ้าแอปเปิ้ลเหล่านี้ขายในเมืองไทย นกคิดว่าหลายๆ คนคงไม่ทราบหรอกว่ามันเป็นแอปเปิ้ลที่เค้าไว้สำหรับปรุงอาหาร หรือว่าใช้กิน เพราะแอปเปิ้ลบ้านเราส่วนใหญ่คนนิยมกินเป็นผลไม้จริงไม่ค่ะ อย่างแอปเปิ้ลที่บ้านแม่แฟนคลับที่ปลูกเอาไว้เช่นกันค่ะ นกกินเล่นเหมือนกับกินผลไม้ทั่ว ๆ ทุกๆ ในครอบครัวบอกว่าเค้าไม่กินกันหรอกเค้าไว้ปรุงอาหาร นกมองไปมองมาชิมรสแล้วมันก็คือแอปเปิ้่ลที่เค้าขายกันในเมืองไทยนะค่ะ วันนี้นกเอาแิอปเปิ้ลหลากหลายมาให้เพื่อนๆ ชม เผื่อว่าที่บ้านมีต้อนแอปเปิ้ล หรือมีวางขายในตลาดจะได้รู้ว่าแอปเปิ้ลไหนสำหรับกิน และแอปเปิ้ลไหนเค้าใช้สำหรับปรุงอาหาร นี้เป็นแอปเปิ้ลที่นกรู้จักค่ะ




Ginger Gold apple เป็นแอปเปิ้ลพันธุ์พื้นที่ขึ้นชื่อปลูกในช่วงประมาณปลาย ๆ ศตวรรษที่19 ลักษณะผลจะมีขนาดใหญ่ปานกลาง ผิวสีเหลืองเนื้อหวานกรอบ เหมาะสำหรับกินเป็นผลไม้เพราะมีความฉำจากน้ำของผลให้ความชุ่มชื่น หรืออาจจะนำไปปรุงเป็นอาหารก็ได้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะนิยมกินเป็นผลไม้





Kentish Fillbasket เป็นแอปเปิ้ลที่มีผลขนาดใหญ่ ผิวสีเขียวปนแดงนิด ๆ เนื้อกรอบ มีรสเปรี้ยว ใช้สำหรับปรุงเป็นอาหาร





Pearmain apple เป็นแอปเปิ้ลสายพันธุ์ดั่งเดิมของอังกฤษ แถบNorfolk ปลูกในต้นศตวรรษที่18 มีลักษณะรูปร่างคล้าย ๆกับของผล คล้าย ๆ กับลูกแพร มีผิวสีแดงปนเหลืองเล็กน้อย เนื้อกรอบ มีรสหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ ผลจะมีความฉำของน้ำผลไม้เล็กน้อย ส่วนมากจะนิยมนำไปปรุงเป็นอาหาร แต่ก็สามารถกินเป็นผลไม้ได้เช่นกัน





Admiral apple เป็นแอปเปิ้ลที่มีผลขนาดปานกลาง ผิวแดงปนเขียวนิด ๆ เนื้อกรอบ มีรสหวานอมเปรี้ยวนิดหน่อย ถึงแม้ว่าเนื้อมีความฉำของน้ำผลไม้เล็กน้อย แต่ด้วยความกรอบหวานของเนื้อ จึงทำให้เป็นที่นิยมกิน


***และนี้เป็นผลไม้และนี้เป็นส่วนน้อยนิดที่นกรู้จักหากที่บ้านเพื่อน มีแอปเปิ้ลที่แตกต่างเอามาแลกเปลี่ยนความรู้กันและกันนะค่ะ***


(* _*) นี้นะหรือที่เรียกว่า "อินเดียนแดง/ Red Indian" (*_*)

นกไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆ เคยได้ดูหนังการต่อสู้ของ " ชนเผ่าอินเดียนแดง (Red Indian) " มาบ้างหรือเปล่า ในหนังชนเผ่าอินเดียนแดง โดยเฉพาะผู้นำหนุ่มมักเทห์เก็ก มีขนนกบนหัว จำได้เลือนๆลางๆนะค่ะ ว่าหนังที่ดูจะเห็นถึงความโหดร้ายของอินเดียนแดง การต่อสู้การไม่ยอมก้มหัวให้ใคร การขี่ม้าที่รวดเร็วผาดโผน การฆ่าด้วยธนูดอกเดียว และความรักความสวยงามของกลุ่มชนอินเดียนแดง และสิ่งหนึ่งที่นกจำได้ดีไม่ลืมเลยคือการแต่งกายที่เป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน (คริ ๆๆ อย่าพึ่ง "งง" นะค่ะว่านกมาพูดเรื่องนี้ทำไม่ ที่พูดก็เพราะว่าวันนี้เข้าไปในเมืองไปเจอะอินเดียนแดงสองหนุ่มกำลังแสดงดนตรีกลางแจ้งให้คนที่เดินไปมาแถวนั้นได้ฟังกันซิค่ะ แถมยังมีเครื่องดนตรี ของแต่งกายอีกมากมายมาให้ชม ใครสนใจก็ซื้อเป็นเจ้าของกันได้ ดนตรีที่เค้าแสดงฟังแล้วเพราะจริงๆ ค่ะ เครื่องดนตรีที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดนตรีที่ทำด้วยไม้เสียส่วนใหญ่ค่ะ









เพื่อนๆ ลองดูนะค่ะ เครื่องดนตรีที่ใช้มีอย่างหนึ่งคล้ายๆแคนของบ้านเรา ปลายของไม้ด้านบนไม่มีรู วิธีการเป่าเค้าเป่าทางด้านล่างของเครื่องดนตรี อีกอันที่น่าสนใจเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ทำเสียงลมค่ะ เป็นเหมือนกับกระบอกไม้ไผ่ เค้าร่อนไปมาเหมือนให้ลมมันอยู่ด้านในกระบอกจากนั้นเอามาจอที่ไมค์เพื่อให้ได้ยินเป็นเสียงลม นกยืนฟังเสียหลายเพลงเลยค่ะ มีเพลงหนึ่งที่ฟังแล้วรู้สึกชอบ กลับมาถึงบ้านรีบเข้าไปค้นดูในยูทรูกลัวว่าจะลืม มีเพลงเหมือนที่ได้ฟังหรือเปล่า ไม่อยากบอกว่าความจำดี คริ ๆ ดีใจจังค้นเจอจนได้ เลยนำมาฝากเพื่อนๆ ชื่อเพลง White Buffalo (ใครสนใจจะฟังเพลงเข้าไปที่ยูทรูนะค่ะ ค้นหาชื่อเพลงนี้ได้เลยค่ะ)





(*_*)ประสบการณ์กับ"Glider" ครั้งแรกในชีวิตของหญิงไทยในต่างแดน / เพื่อนฝารั่งบอกว่าฉานบ้า(*_*)

วันอาทิตย์ที่ผ่านมานกไปหัดบินมาค่ะ เพื่อนฝารั่งบอกว่าบ้าไม่กลัวเหรอ มันสูงนะ (โอ๋ฉานจะเป็นลม คริ ๆ ดูเพื่อนเราพูด) ทำไม่ต้องกลัวด้วยไม่เข้าใจ มันก็คือกีฬาอย่างหนึ่ง ที่คนเล่นต้องไปเล่นอยู่ที่สูงๆ บนฟ้าก็เท่านั้นเอง งานนี้จะบอกว่านกเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ไปบินกับชมรมเค้าก็ว่าได้ค่ะ (อวดตัวเองหน่อย) "Glider" เป็นเครื่องบินที่ไม่มีเครื่องยนต์ มีแต่คันบังคับทิศทางบิน บินด้วยแรงลม ยิ่งมีลมมากเท่าไรยิ่งบินได้ดี บินได้อย่างอิสระเสรีเหมือนอย่างกับนกเลยที่เดียว จะเรียก "Glider" ว่าเครื่องบินร่อน หรือเครื่องบินที่ไม่มีเครื่องยนต์ก็ได้เช่นเดียวกัน



"Glider" เป็นกีฬาสำหรับทุกเพศทุกวัยที่ชอบความสูง ความท้าทายในการบิน แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไปถึงจะบินได้



"Glider" มีปีกที่ยาว ที่นั่งแคบ มีลำที่ปีกยาวช่วยให้มีประสิทธิภาพการบินสูง นี้เป็นคุณสมบัติ แต่ "Glider" จะบินขึ้นสู่ฟ้าได้ก็ต้องมีตัวช่วยโดยใช้เครื่องบิน หรือ รถยนต์ติดสายลาก แล้วก็ลากตัวเครื่องให้ลอยไปบนอากาศ เมื่อได้ระดับที่ต้องการก็จะตัดสายลากทิ้งไป สายลากจะต่อเชื่อมที่หน้า"Glider" (ตรงช่องเล็ก ๆ หน้าตัวเครื่องนะค่ะ) นี้เป็น"Glider" ที่นกจะบินไปกับมัน



กำลังตรวจดูความพร้อมก่อนการบิน ตรวจอย่างเอาจริงเอาจังเสียด้วยค่ะทุกอย่างพร้อมเข้าที่นั่งประจำตำแหน่งด้านหน้า คือนก ด้านหลังคือ ผู้ฝึกสอน ก่อนที่จะบินต้องใส่ร่มชูชีพไว้กับตัวล๊อกให้แน่นหนา จากนั้นขึ้นเครื่องล๊อกที่นั่งในตัวเครื่องให้ติดกับตัวเอง หากเกิดปัญหาอะไรก็ให้ปลอดล๊อกที่นั่งเปิดหน้าต่าง เสร็จแล้วก็ตัวใครตัวมันละค่ะ ตรวจดูหน้าปัดระบบก่อนทะยานขึ้นสู่ฟ้า (วันนี้ชมพูสู้ ๆๆเห็นอะป่าวเสื้อชมพู รองเท้าก็ยังมีสีชมพู)




ทุกอย่างพร้อม นกก็พร้อมแล้วเหมือนกัน สายลากติดตั้งพร้อมแล้วก็ลุยค่ะ ตอนนี้อยู่เฉย ๆ ยังไม่ต้องทำอะไร เพราะมันกำลังไต่ระดับ (นกก็เลยถ่ายรูปก่อน)



หน้าเชดขึ้นฟ้าแล้วค่ะ อีกประเดี่ยวก็ได้บินสมใจแล้ว


ได้ระดับสายถูกตัดทิ้งไปแล้วค่ะ (เห็นมือในภาพไม่ค่ะ นกพยายามจะถ่ายปีกตอนที่บินตะแครงนะค่ะ)




นกคงต้องทิ้งท้ายด้วยท้องฟ้าสวย ๆ แล้วละค่ะ ถึงเวลาหัดบินแล้วละค่ะ