ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป



ภาพจาก Google

ในชีวิตของเรามีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปมากมายตั้งแต่เด็กจนโต แต่ที่เห็นการเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือบ้านที่เราอยู่สมัยก่อน บ้านนี้เป็นบ้านของครอบครัวเรา จำได้ว่าตอนที่สร้างบ้านหลังนี้ บ้านของเราเป็นบ้านหลังสุดท้ายของหมูบ้านเพราะทางเข้าหมู่บ้านจะเป็นตรงหน้าอำเภอ ตามที่หลาย ๆ คนจากในเมืองรู้จักเสียส่วนใหญ่ เพราะส่วนนั้นจะเจริญมากกว่าส่วนอื่น ๆ เพราะมีสถานที่ทำการของรัฐอยู่แถวนั้นเยอะ


ภาพจาก Google


บ้านที่เราอยู่นั้นจะไม่ค่อยมีคนนิยมขับรถออกถนนสายหลักสักเท่าไร ตอนที่จะสร้างบ้านตลอดทางที่จะถึงที่ดินไม่มีเสาไฟฟ้าผ่าน ตอนที่ยื่นขอสร้างบ้านจำได้ว่าแม่ต้องไปติดต่อการไฟฟ้าให้มาขยายเสาไฟฟ้าให้ และจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเสาไฟฟ้าเอง น้ำปะปาก็ผ่านไม่ถึงบ้านของเรา ที่บ้านจึงต้องขุดบ่อบาดาลใช้  ตอนนี้มีน้ำปะปาใช้แล้วทั่วหมู่บ้าน แต่ที่บ้านก็ยังใช้น้ำบาดาล เป็นบางครั้งน้ำปะปาไม่ไหล หรือไหลไม่พอโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน


ภาพจาก Google


ปัจจุบันนี้รอบ ๆ บ้านกลายเป็นแหล่งชุมชนมีตึกแถวปลูกใหม่เต็มไปหมด แถมยังใช้เสาไฟฟ้าที่บ้านเราขอขยายกับการไฟฟ้าสบาย ๆ  ถนนหน้าบ้านเมื่อก่อนไม่มีรถผ่านมากนัก สักทุ่ม สองทุ่ม  ก็ไม่ได้ยินเสียง เงียบมากๆ ได้ยินแต่เสียงจั๊กจั่น


ภาพจาก Google

ตอนนี้ถนนหน้าบ้านกลายเป็นถนนสายหลักออกจากหมู่บ้านอีกหนึ่งทาง จากความเงียบสงบได้ยินแต่เสียงจั๊กจั่นก็ไม่ได้ยิน กลับได้ยินแต่เสียงรถผ่านตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง กลายไปความวุ่นวาย มีคนอยู่มากขึ้น มีร้านค้าเกิดขึ้นเต็มไปหมด  


ภาพจาก Google


หากจะมองในแง่ดีคงเป็นในเรื่องของธุรกิจของน้องสาวเมื่อมีคนอยู่มากขึ้น ร้านก็มีรายได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่สำหรับแม่ของเราซึ่งเกษียณอายุแล้ว พอแม่อายุเยอะขึ้นต้องการความสงบเวลาหลับนอนในยามค่ำคืนต้องทนต่อเสียงดังๆ ทุกๆ วันเห็นจะไม่ไหว เลยต้องย้ายไปปลูกบ้านหลังใหม่อีกหลังที่สงบกว่า แต่กลางวันก็ยังมาอยู่บ้านหลังเก่าช่วยน้องสาวเฝ้าร้านเวลาน้องสาวออกไปทำธุระนอกบ้าน