(* _ *) เกิดเหตุฉุกละหุกไม่คาดคิด (* _ *)

คุณพ่อเป็นตัวของตัวเองมีความเชื่อมันในตัวเอง เป็นคน “อินดิเพนเดนท์” (Independent) ถึงแม้ว่าอายุท่านจะมากแต่ก็ชอบอยู่คนเดียว ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ๆ เดือนธันวาคมมีเรื่องฉุกละหุกเกิดขึ้นกับคุณพ่อ ซึ่งท่านล้มในห้องนั่งเล่น ตั้งแต่ตอนกลางคืนจนถึงเช้าของอีกวัน เป็นเวลา 13 ชั่วโมงโดยไม่มีใครรู้ 



โชคดีที่พวกเราไปเยี่ยมท่านอยู่เป็นประจำในช่วงสาย ๆ และวันนี้ก็เหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่ไป แต่แปลกตรงที่ปกติแล้วหน้าต่างห้องนั่งเล่น ผ้าม่านก็จะเปิดออก แต่วันนี้ไม่เป็นแบบนั้น ประตูบ้านก็ยังล๊อคยู่ไม่ได้เปิดล๊อคแต่อย่างใด  พวกเรามีกุญแจสำรองสามารถไขเข้าไปได้ พบว่าท่านล้มนอนอยู่บนพื้นในห้องนั่งเล่น โชคดีที่ห้องนั่งเล่นปูพื้นด้วยพรม พี้นไม่แข็งและไม่เย็น 



ตอนที่เจอะท่านพูดคุยได้ดี มีแผลที่ข้อศอกเล็กน้อย เพราะตอนล้มข้อศอกไปขูดกับโซฟา จากสายตาของเราเท่าที่เห็น เราคุยเป็นเพื่อนท่าน ส่วนคนที่บ้านแยกไปโทรติดต่อฉุกเฉิน ซึ่งทางฉุกเฉินก็ให้ความรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับคนเจ็บ และจะรีบส่งหน่วยรถพยาบาลมาที่บ้านเร็วที่สุดไม่เกิน 45 นาที  



ขอบคุณภาพจาก Google

ระหว่างที่รอรถอยู่นั้น เราก็ถามท่านว่าทำไม่ ถึงไม่กดสัญญาณฉุกเฉิน คุณพ่อก็บอกว่ากดทั้งคืน แต่ไม่มีสัญญา เรียกถึงทางบริษัทที่ดูแลเรื่องสัญญาณฉุกเฉินเลย ทำให้พวกเราไม่รู้ว่าคุณพ่อท่านล้ม 


ขอบคุณภาพจาก Google


สำหรับสัญญาณฉุกเฉินนั้นเราได้ติดต่อบริษัท ทางบริษัทได้ส่งเครื่อง พวกตัวกดพกพามาให้ที่คุณพ่อ ซึ่งตอนติดตั้งก็มีการทดสอบ เป็นอย่างดีว่าสัญญาณฉุกเฉินวทำงานหากมีการกดเรียก ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตอบรับ และแจ้งเหตุมายังญาติที่แจ้งหมายเลขเอาไว้ทำให้รู้ว่ามีเหตุเกิดขึ้นที่บ้านคุณพ่อ ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งก็ไม่น้อยเลย หลังจากที่พวกเรารออยู่ประมาณ 15 นาที หน่วยรถพยาบาลก็มาถึง ซึ่งมาเร็วมาก ๆ ในรถพยาบาลมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 3 คน พอมาถึงเจ้าหน้าที่ 2 คน ก็เริ่มเข้ามาดูแลคุณพ่อ วัดความดัน  วัดค่าออกซิเจน ตรวจดูสภาพร่างกาย ซึ่งท่านก็พูดคุยกับเจ้าหน้าทีตามปกติ และมีเจ้าหน้าอีกคนเข้ามาสอบถามพูดคุยซึ่งเราก็ได้แจ้งเรื่องสัญญาณฉุกเฉิน พอได้ทราบเรื่องเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ติดต่อไปยังบริษัทที่รับผิดชอบเรื่องสัญญาณฉุกเฉินทันที 



ขอบคุณภาพจาก Google

จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคุณพ่อก็เข้าสอบถามรายละเอียดประวัติเกี่ยวกับคุณพ่อ และแจ้งว่าร่างกายไม่มีกระดูกส่วนไหนหัก แต่จะต้องส่งตัวคุณพ่อไปโรงพยาบาล เนื่องจากความดันต่ำ และออกซิเจนในเลือดต่ำ ต้องได้รับการดูแล ทางเจ้าหน้าที่ก็เตรียมเคลื่อนย้ายคุณพ่อไปโรงพยาบาล พวกเราก็ต้องเตรียมของใช้ของใช้ที่จำเป็นและเตรียมตัวตามคุณพ่อไปโรงพยาบาล วันนี้จึงเป็นวันที่ฉุกละหุกและน่าตกใจสำหรับพวกเราทุกคนจริง ๆ 



ขอบคุณภาพจาก Google



"ติดเป็นนิสัย"

 
เรื่องติดเป็นนิสัยของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป จะมากหรือน้อยแล้วแต่  คำว่า "ติดเป็นนิสัย" หมายถึง สิ่งที่กระทำอยู่อย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน จนคุ้นชิน กระทำไปอย่างลืมตัว บางอย่างก็ดี บางอย่างก็ไม่ดี ส่วนเรื่องการติดนิสัยของตัวเอง เรื่องแรกคือการติดหวาน ขนมและเครื่องดื่มทุกอย่างที่มีความหวานชอบหมด อย่างขนมไทย ขนมฝรั่ง ต้องมีใส่กล่องติดตู้เอาไว้ 




ขนมบางอย่างก็ซื้อ บางอย่างก็ทำเอง เอาไว้กินกับชาหรือกาแฟ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีของตัวเองสักเท่าไร อย่าจะลดหวานก็ยังทำไม่ได้ดีพอ 




ตอนอายุเริ่มเยอะขึ้นกลัวเรื่อง ค่าน้ำตาลในเลือดสูง  ซึ่งไม่ค่อยจะดีต่อสุขภาพมากนัก ปีนี้เลยคิดจะเริ่มต้นตัดความหวานออกบ้างบางครั้ง




เรื่องที่สองที่ติดนิสัย เป็นเรื่องตอนเด็ก ๆ เวลานอนเราชอบกอดหมอนข้าง ถ้าไม่กอดคิดว่าจะนอนไม่หลับ ตามประสาเด็ก ๆ  พอโตมาหน่อยมีเจ้าหมีน้อยบนที่นอนเพิ่มขึ้น เลยเปลี่ยนจากหมอนข้างไปกอดเจ้าหมีน้อยแทน




เวลาที่นอนไม่หลับ แลมีสิ่งหนึ่งที่ทำตอนนอนไม่หลับคือ จะเอามือบีบตรงส่วนมือของเจ้าหมีน้อยไปเรื่อย ๆ นานเท่าไรไม่รู้ แต่สิ่งที่ทำนั้นทำให้หลับไปเอง โดยไม่รู้ตัว เราคิดว่ามันคงช่วยให้เราผ่อนคลายและนอนหลับอย่างสบายใจ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องย้ายที่นอน 




จากที่เคยนอนอยู่เป็นประจำทุก ๆ วันๆ ไปนอนที่อื่นๆ เจ้าหมีน้อยจะเป็นเพื่อนไปด้วยตลอด เอาไว้กอดข้างกายเป็นเรื่องที่ทำอยู่จนปัจจุบัน ถึงแม้ว่าอายุจะมากแล้วก็ตาม




ติดเป็นนิสัย เรื่องสุดท้ายคือชอบจดบันทึกเตือนความจำในสมุดไดอารี ซึ่งในปัจจุบันหลาย ๆคนจะบันทึกเตือนความจำในโทรศัพท์มือถือพอถึงวันโทรศัพย์ก็จะส่งเสียงเตือนความจำให้โดยอัตโนมัติ แต่เรายังเลือกใช้สมุดไดอารี พกพาไปไหน ๆ ด้วยตลอด ส่วนใหญ่จะจดบันทึกรายการนัดประจำวัน วันนี้ต้องทำอะไรที่ไหน ต้องไปพบกับใคร หรือไปท่องเที่ยวที่ไหนก็จะจดเอาไว้จะได้ไม่ลืม ซึ่งจะเขียนเป็นการเตือนความจำทั่วๆ ไปสั้น ๆ  ไม่ได้เขียนเต็มรูปแบบแต่ก็อ่านแล้วเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น





(* _ *)ของเล่นในยุค 90 (* _ *)





ขอบคุณภาพจาก Google


ของเล่นในวัยเด็กที่เราหลายคนๆ ไม่ลืมเลือนในยุค 90s และยังคงนึกถึงมันอยู่เสมอนั้นก็คือ “ทามาก็อตจิ” (Tamagotchi)  เจ้าสัตว์เลี้ยงอิเล็กโทรนิกส์ ที่เราจะต้องดูแลรักมันอย่างกับลูกกับหลาน ตั้งชื่อ เอาใจใส่ให้อาหารให้น้ำ เพื่อที่เจ้าสัตว์เลี้ยงจะได้เจริญเติบโต บางครั้งต้องตื่นนอนขึ้นมาไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยามเพื่อจะให้อาหาร เราจะพกพาไปไหนมาไหนด้วยตลอด ทิ้งไม่ได้  ช่วงกลางวันตั้งเวลามาเล่นเป็นเพื่อน เหมือนกับเล่นกับสัตว์เลี้ยงจริงๆ ไม่สบายก็ต้องรักษาให้ยาแก่มันและหากไม่ดูแลเอาใจใส่ ทิ้งไว้นานๆ มันก็จะน้อยใจ ก็จะตายได้ เราจะต้องรอให้มันเกิดใหม่ นั้นหมายความว่าเราต้องเริ่มต้นเลี้ยงใหม่ 




ขอบคุณภาพจาก Google


การเลี้ยงดู “ทามาก็อตจิ”จะมีปุ่มให้เราควบคุมเครื่องเป็นปุ่มกดจำนวน 3 ปุ่ม มาพร้อมด้วยสายคล้อง เหมือนกับสายคล้องพวงกุญแจ ทุก ๆ ครั้งที่ “ทามาก็อตจิ” ส่งเสียงดังร้องเรียก นั้นหมายถึง เราจะต้องดูแลว่ามันต้องการอะไร“ทามาก็อตจิ” ยิ่งเรารักและเอาใจใส่มัน มันยิ่งมีความสุขโตวันโตคืน แุถมน่ารักฉลาด แสนรู้อีกด้วย


ขอบคุณภาพจาก Google


และอีกตัวก็เกมส์ในโทรศัพท์ Nokia 3310 โทรศัพท์มือถือเครือข่าย GSM. ที่ได้มีการประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ปี 2000. และวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 ของปีเดียวกันและสิ่งสำคัญที่สุดของ Nokia 3310 คือ 'ความทน' ต่อให้ตกพื้นจนเครื่องแตก แบตเตอรี่กระจาย แค่เเก็บชิ้นส่วนมาประกอบใหม่ก็ฟื้นชีวิตกลับมาใช้งานได้ตามปกติหรือ แม้แต่ตกน้ำ เช็ดน้ำทำให้แห้ง เปิดเครื่องใช้ก็ได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในโทรศัพท์ Nokia 3310 นี้มีเกมส์ทั้งหมด 4 เกมส์ ได้แก่ Snake II (เกมงู) Pairs II (เกมจับคู่) Space Impact (เกมตะลุยอวกาศ) และ Bantumi (เกมหมากหลุม) ซึ่งเกมส์เหล่านี้เราเล่นหมดทุกตัว แต่ตัวที่เล่นบ่อย ๆ ที่สุดก็เห็นจะเป็น เกมส์งู




เกมส์งูเป็นเกมส์ที่เเล่นง่ายมากๆ เพียงแค่ควบคุมงูที่อยู่กลางจอของเรา ให้วิ่งไปกินจุด ให้ตัวยาวขึ้นเรื่อย ๆ  จนกว่าตัวงูจะใหญ่คับจอจนเลื้อยไปทางไหนไม่ได้แล้ว สิ่งที่ต้องระวังในการเล่น คือต้องระวังไม่ให้งูไปชนกับขอบจอ หรือชนหางตัวเอง พอตัวงูยาวขึ้น ก็จะควบคุมลำบาก จุดก็ต้องกินอาหารขอบก็ต้องระวัง หางก็อย่าชน และหากหากชนตู้มตาย ก็จะจบเกม เริ่มต้นกันใหม่ 




จริง ๆ แล้ของเล่นในยุค90 ยังมีอีกหลายอย่าง แต่ที่นำมาบอกเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังเพราะเป็นเกมส์ที่ตนเองเล่นอยู่เป็นประจำ

อังกะลุง

อังกะลุง เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องกระทบทำจากไม้ไผ่ เล่นโดยการเขย่าให้เกิดเสียง อังกะลุงมีต้นกำเนิดในบริเวณที่เป็นจังหวัดชวาตะวันตก และจังหวัดบันเตินของประเทศอินโดนีเซีย และยูเนสโกได้รับรองอย่างเป็นทางการว่าอังกะลุงเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ของมนุษยชาติ สำหรับอังกะลุงในเมืองไทยเข้ามาครั้งแรก ประมาณ พ.ศ. 2451 โดยหลวงประดิษฐ ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)  เมื่อครั้งที่เสด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงพันธุวงศ์วรเดช เสด็จพระราชดำเนินประพาสเกาะชวา




Grey Seal (แมวน้ำสีเทา)




Grey Seal เมื่อคุณเดินไปตามชายฝั่งนอร์ฟอล์ก ( Norfolk Coast) คุณอาจจะได้พบกับแมวน้ำสีเทาอยู่ในน้ำ แมวน้ำสีเทาเป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์ ประชากรแมวน้ำสีเทาในนอร์ฟอล์กมีประมาณ 3,000 ตัว เกิดที่เบลคนีย์พอยต์ (Blakeney Point) และ 2,000 ตัว ที่หาดฮอร์ซีย์ (Horsey Beach) ประมาณ 50% ของประชากรแมวน้ำสีเทาทั่วโลกอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งอังกฤษ ทำให้สหราชอาณาจักรเป็นพื้นที่เพาะพันธุ์ที่สำคัญสำหรับพวกมัน




แมวน้ำสีเทาให้กำเนิดลูกตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนมกราคม ลูกแมวน้ำสีเทาถูกแม่ของพวกมันป้อนอาหารบนชายหาดเป็นเวลาสามสัปดาห์ พวกมันมีน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัมต่อวัน หลังจากผ่านไปสามสัปดาห์ แม่ก็จะทิ้งลูกไว้อยู่บนชายหาดตามลำพัง ในขณะที่ลอกคราบขนสีขาว หลังจากนั้นมันจะออกทะเล เพื่อเรียนรู้การล่าสัตว์สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ แม่จะต้องไม่ถูกรบกวนในช่วงแรกไม่เช่นนั้นแม่อาจละทิ้งลูกหรือไม่สามารถให้อาหารลูกได้มากพอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกจะได้รับน้ำหนักที่เหมาะสมก่อนที่จะปล่อยให้พวกมันดูแลตัวเอง มันเป็นชีวิตที่ยากลำบากในการเป็นลูกแมวน้ำสีเทา โดยมีลูกแมวน้ำประมาณ 50% เสียชีวิตในปีแรก




มโนราห์ (Menora)

มโนราห์ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า โนรา เป็นการแสดงละคร ดนตรี และกายกรรมแบบดั้งเดิมมีต้นกำเนิดมาจากภาคใต้ของประเทศไทย การแสดงดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับละครชาตรีซึ่งเป็นศิลปะอีกรูปแบบหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากภาคกลางของประเทศ โดยมีเนื้อเรื่องคล้ายคลึงกัน ซึ่งนำมาจากนิทานชาดกของมโนหราห์ ที่มีอายุมากกว่าห้าร้อยปี การแสดงส่วนใหญ่จะอยู่ในชุมชนท้องถิ่นภาคใต้ งานวัดและกิจกรรมทางวัฒนธรรม มโนราห์ เป็นการถ่ายทอดผ่านการฝึกอบรมโดยปรมาจารย์พื้นบ้าน องค์กรชุมชน และสถาบันการศึกษา มโนราห์มีแม่บทท่ารำอย่างเดียวกับละครชาตรี บทร้องเป็นกลอนสด ผู้ขับร้องต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบ สรรหาคำให้สัมผัสกันได้อย่างฉับไว มีความหมายทั้งบทร้อง ท่ารำและเครื่องแต่งกายเครื่องดนตรีประกอบด้วย กลอง ทับคู่ ฉิ่งโหม่ง ปี่นอก หรือ ปี่ใน และกรับ เดิมนิยมใช้ผู้ชายล้วนแสดง แต่ปัจจุบันมีผู้หญิงเข้าไปแสดงด้วย




ครีมกันแดดตัวเด็ดปี2024 ของเรา

สาว ๆ รู้หรือไม่ว่าการแก่ชราของผิวมีสาเหตุมาจากรังสียูวี  ซึ่งได้แก่ จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัยทั่วทั้งสีผิว สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นแพทย์ผิวหนังจึงแนะนำให้ปกป้องผิวจากรังสียูวี  โดยการใช้ครีมกันแดดในการป้องกันผิวจากริ้วรอยและอาการอื่นๆ ของผิวที่เกิดจากแสงแดดที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระหว่าง 10.00 น. ถึง 16.00 น.เป็นช่วงเวลาเร่งรีบที่รังสีดวงอาทิตย์แรงที่สุด ๆ มีผลเสียทำให้ผิวไหม้แดด แดง แสบ ลอก (Sunburn)  กระตุ้นการผลิตเมลานินใหม่ที่มีสีน้ำตาลดำ ติดทนนาน และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งผิวหนัง หรือโรคผิวหนังอื่นๆ เช่น ฝ้า ผื่นแดงคันตามผิวหนัง




 L'Oréal Paris  Revitalift Clinical Vitamin C SPF 50+ Daily Anti-UV Fluid  ครีมกันแดดที่มีประโยชน์ในการดูแลผิวมีเนื้อเบาเป็นพิเศษ เกลี่ยง่าย ไม่มันเยิ้ม ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขนไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เนื้อครีมจะเป็นแบบเหลว





เนื้อครีมนั้นผสมผสานด้วยวิตามินซีและการปกป้อง SPF 50+ ไว้ในสูตรเดียวกัน ซึ่งวิตามินซีอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำและริ้วรอยต่างๆ เพิ่มความกระจ่างใส 
ร่วมกับวิตามินอีเป็นสารให้ความชุ่มชื้นทำให้ผิวนวล ซึ่งพบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว




และกรดไฮยาลูโรนิกช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและความกระจ่างใสยาวนาน 
สูตรฟลูอิดที่เป็นนวัตกรรมใหม่มีเทคโนโลยีเน็ตล็อค( NETLOCK) พื้นผิวที่มองไม่เห็น เนื้อสัมผัสบางเบาเป็นพิเศษดูดซับได้รวดเร็วปราศจากคราบขาว มีคุณสมบัติกันน้ำและปกปิดผิว ทำให้ผิวรู้สึกอ่อนนุ่มเปล่งประกาย มีการป้องกันรังสียูวีหลายชั้น สร้างฟิล์มป้องกันที่เป็นเนื้อเดียวกัน โดยมีการยึดเกาะกับผิวหนังมีความต้านทานต่อน้ำและการเสียดสีสูง 




การป้องกัน SPF50+  คือจะต้องปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์อย่างสม่ำเสมอ มากกว่าผิวปกติ 50 เท่า ความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวีบี (UVB) ได้ 98% แม้ว่าเราจะไม่ได้สัมผัสกับรังสียูวีเป็นเวลานานก็ตาม




วิธีการใช้ L'Oréal Paris  Revitalift Clinical Vitamin C SPF 50+ Daily Anti-UV Fluid  ที่ดีควรเขย่าขวด 
ก่อนทาในตอนเช้าก่อนเที่ยง หลังจากที่ทำความสะอาดดูแลผิวตามปกติก่อนแต่งหน้า จากนั้นก็ให้ทาให้ทั่วใบหน้า ลำคอ  และยังสามารถทาบนเปลือกตาและรอบดวงตา 





 L'Oréal Paris  Revitalift Clinical Vitamin C SPF 50+ Daily Anti-UV Fluid ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้าในช่วงกลางวัน ให้ความเปล่งประกายที่สมบูรณ์แบบ ผิวกระจ่างใส่ขึ้น ริ้วรอยดูแลจ่างลง  เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีคราบขาวระหว่างวัน 





ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF ส่วนใหญ่แล้วจะทำให้ผิวเหนียวและมีเหงื่อออก แต่ L'Oréal Paris  Revitalift Clinical Vitamin C SPF 50+ Daily Anti-UV Fluid ให้ความรู้สึกเบาอย่างไม่น่าเชื่อ




และแห้งภายในเวลาอันรวดเร็ว จึงใช้ได้ดีกับคนมีผิวมันหรือผิวผสม และยังเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย





Garnier Ambre Solaire Sensitive Advanced Spray Sun Cream SPF50+  แบบหัวฉีด ให้การปกป้องที่สูงมากต่อความเสียหายของผิวหนังที่เกิดจากแสงแดดและการถูกแดดเผา ด้วยเซราไมด์ที่ให้การปกป้องรังสี UVA และ UVB และการปกป้องผิวในทันที 




เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวธรรมดาและผิวแพ้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะปราศจากน้ำหอม กันน้ำได้ดีไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้  ปกป้องจากความเสียหายในระยะยาวและริ้วรอยผิวก่อนวัยอันเนื่องมาจากรังสี UVA ให้การปกป้องที่สมบูรณ์ แม้ว่าจะต้องเผชิญแสงแดดเป็นเวลานานก็ตาม  ได้รับการทดสอบภายใต้การควบคุมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง การวิจัยผลิตภัณฑ์กันแดด Garnier ได้รับการยอมรับจาก British Skin Foundation




วิธีการ ใช้ให้เขย่าก่อน แล้วฉีดบนฝ่ามือก่อนทา  แล้วทาให้ทั่ว ๆ บริเวณผิวที่ต้องการจะปกป้อง ซึ่งใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย เนื้อครีม เกลี่ยง่าย ซึมซับได้ดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ  




และครีมยังช่วยให้ผิวชุ่มชื่น รู้สึกนุ่มหลังใช้ ทาได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ ปกป้องผิวจากแสงแดดได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชอบไปทะเล และการว่ายน้ำ ช่วยให้การปกป้องได้เป็นอย่างดี