กินเท่าไรก็ไม่เคยพอ

"ไม่เคยพอ" มีใครเป็นเหมือนนกบ้างค่ะ ในเรื่องของการกิน ซึ่งเราจะมีสิ่งหนึ่งที่ชอบมาก ๆ กินเท่าไรก็ไม่เคยพอสักที เริ่มกินแล้วก็กินต่อไปไม่มีการหยุด จนมันจะหมดไปเอง บางครั้งแฟนคลับที่บ้านพูดขำ ๆ ออกมาว่า "กินมากๆ มันจะงอกมาทางหูคุณอยู่แล้ว" สิ่งนั้นก็คือเจ้าถั่วแมคคาเดเมีย หรือ Macadamia Nuts



ขอบคุณภาพจาก Google

แมคาเดเมีย ( Macadamia) เป็นไม้ยืนต้นปลูกบนพื้นที่สูงบนภูเขา บนดอย เป็นต้นไม้ประเภทถั่วอย่างหนึ่ง ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง แมคาเดเมียมีอีกหลาย ๆ ชื่อที่เรียกกัน เช่นถั่วควีนส์แลนด์ (Queensland nut) ถั่วบุช ( bush nut) ถั่วมารูชิ (maroochi nu) ถั่วฮาวาย ฯลฯ 



ขอบคุณภาพจาก Google

แมคาเดเมียนั้นมีถิ่นกำเนิดในประเทศออสเตรเลียทางตะวันออกเฉียงเหนือของนิวเซาธ์เวลส์ (New South Wales ) ทางตอนกลางและตะวันออกเฉียงใต้ของควีนส์แลนด์ (Queensland)นิวแคลิโดเนีย ( New Caledonia)และซูลาเวซี (Sulawes) ในอินโดนีเซีย ส่วนในประเทศไทยจะปลูกกันทางภาคเหนือของประเทศอย่างจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย เป็นต้น




ถั่วแมคคาเดเมีย (Macadamia Nuts) มีปริมาณไขมันอิ่มตัวสูง แต่เป็นไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีไฟเบอร์สูงช่วยระบบขับถ่าย และยังช่วยให้กระดูกแข็งแรง 



ที่บ้านจะซื้อ Macadamia Nuts  แบบอบบรรจุถุงเรียบร้อยแล้วครั้งละ 1ถุง จากนั้นก็แบ่งออกมาใส่กล่องวางเอาไว้ตั้งบนโต๊ะหน้าทีวี ส่วนที่เหลือเก็บในกล่องปิดมิดชิดเข้าตู้ไว้ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นเราจะหยิบกินหมดถุงในครั้งเดียว 






Swaffham ตลาดนัดฝรั่ง




Swaffham  (/ˈswɒfəm/) เป็นเมืองในเขต Breckland และมณฑลนอร์ฟอล์ก (Norfolk) ของอังกฤษ อยู่ห่างจากคิงส์ลินน์ ( King's Lynn) ไปทางตะวันออก 19 กม. และอยู่ห่างจากนอริช ( Norwich)ไปทางตะวันตก 50 กม. มีพื้นที่ 11.42 ตารางไมล์ (29.6 ตารางกิโลเมตร) และในการสำรวจสำมะโนประชากร พ.ศ. 2544 มีประชากร 6,935 คนใน 3,130 ครัวเรือน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 7,258 ครัวเรือนใน 3,258 ครัวเรือน ในการสำรวจสำมะโนประชากร พ.ศ. 2554 เพื่อวัตถุประสงค์ของรัฐบาลท้องถิ่นในเขต Breckland 





หากจะพูดถึง ตลาดSwaffham มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ย้อนกลับไปถึงปี 1215 ซึ่งเป็นปีแรกที่บันทึกเกี่ยวกับตลาดเอาไว้  ตลาดSwaffham ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้พักอาศัยและผู้มาเยือน ทุกวันศุกร์จะมีตลาดในร่มที่หอประชุม ตลาดแห่งนี้จำหน่ายเค้กโฮมเมด แยม และผักดอง ควบคู่ไปกับเครื่องประดับวินเทจ และอื่นๆ อีกมากมาย 




ส่วนตลาดวันเสาร์ก็จะเป็นตลาดกลางแจ้งมีแผงขายของมากกว่า 30 แผงซึ่งมีสินค้าหลากหลายประเภท เช่น เนื้อสด ปลาสด ผักและผลไม้ ชีส ไข่ ของใช้ในบ้าน ขนมหวาน เสื้อผ้า เครื่องมือ ของกระจุกกระจิก ต้นไม้ ฯลฯ














นกไม่ได้ไปตลาดSwaffham  ซึ่งเป็นตลาดวันเสาร์ มานานมากๆ  ครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวครั้งแรก เห็นตลาดแล้วบอกได้คำเดียวว่ามันใหญ่มาก มีคนมาจับจ่ายซื้อของมากมาย พ่อค้าเนื้อ เปิดรถบรรทุก ประกาศขายเนื้อ ลดราคากันเห็น คนนี้ยกมือซื้อกันเลย ส่วนพ่อค้าปลานั้นมีปลาสด ๆ ที่หั่น เลาะเอาก้างออกให้เรียบร้อย ส่วนใหญ่แล้วนกจะไปซื้อปูมากกว่าเพราะที่ห้างฯไม่มีปูเป็นตัว ๆ แต่จะเป็นปูที่เค้าอัดใส่กระป๋องเอาไว้ ไม่สดเหมือนกับที่ซื้อในตลาด  สำหรับผักที่นี้จะมีผักหลากหลายโดยเฉพาะผักที่มากจากเอเซีย หากซื้อได้ง่าย ร้านแต่ละร้านมีลูกค้าเข้าคิวซื้อกันแน่น 









แต่วันนี้นกมีโอกาสไปอีกเที่ยวตลาดSwaffham อีกครั้ง กลับเงียบเหงาไม่คึกครื้นเหมือนอย่างแต่ก่อนที่เคยเป็นมา แผงขายของที่มีมากมายกับลดเหลืออยู่ไม่กี่แผง มีคนเดินซื้อของไม่ค่อยมากสักเท่าไร 










ร้านค้าเก่า ๆ ที่ตั้งใจจะไปซื้อก็ไม่มีแล้ว อย่างร้านขายผัก ร้านขายปลา ที่เคยซื้อก็ไม่มาขายแล้ว มีร้านเกิดใหม่ขี้นแทนร้านเก่า ผักจากประเทศไทยที่อยากจะซื้อเค้าไม่มีขาย ปูที่จะเอาไปผัดก็ไม่ได้  เท่าที่เห็นจะเป็นร้านขายของเก่าหลายร้านเลย  เห็นที่นกต้องกลับบ้านมือเปล่าไม่ได้ของตามแผนที่วางไว้ 


Starling (สตาร์ลิ่ง) /Common Starling

Starling (สตาร์ลิ่ง) เป็นนกขนาดเล็กถึงขนาดกลาง Starling หรือ  Common starling  ชื่อสามัญที่ใช้เรียกกันโดยทั่วไป ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Sturnus vulgaris เป็นนกในตระกูล  Sturnidae (นกกิ้งโครง) และเป็นนกในกลุ่ม Red List ที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติสัตว์ป่าและชนบทปี 1981 ซึ่งทำให้การจงใจฆ่า ทำร้าย จับนก สร้างความเสียหายหรือทำลายรังหรือสิ่งที่อยู่ในรังนั้นผิดกฎหมาย 



 ขอบคุณภาพจาก Google

สตาร์ลิ่งจะมีขนสีดำมันวาว มีลายสีฟ้าเขียวและมีจุดสีขาวเล็กๆ เมื่อโตเต็มวัย แต่ถ้ายังเล็กอยู่จะมีขนสีน้ำตาลอมเทา ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ประมาณเดือนมีนาคมถึงเมษายน ตัวผู้สร้างรังจากใบไม้และหญ้าแห้งตามโพรงต้นไม้ บ้านนก หรือแม้กระทั้งใต้กระเบื้องมุงหลังคา พวกมันจะเกาะอยู่ใกล้รังและส่งเสียงร้องเรียกตัวเมียเพื่อดึงดูดคู่มาผสม โดยปกติแล้วนกตัวเมียจะวางไข่ ประมาณ 4-5 ฟองในช่วงกลางเดือนเมษายน และฟักออกมาเป็นตัวหลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์ อาหารของพวกมันจะเป็น แมลงและผลไม้ รวมถึงหญ้า โดยพวกมันใช้จะงอยปากแหลมแหลมในการหาอาหาร สตาร์ลิ่งเป็นนกประจำถิ่นในสหราชอาณาจักร (United Kingdom) แต่บางตัวก็อาจจะอพยพย้ายถิ่นฐานจากตอนเหนือของยุโรปเพื่อมาใช้เวลาช่วงฤดูหนาวที่นี่ โดยจะมาในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม แล้วจะกลับถิ่นฐานเดิมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 




ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนตุลาคมถึงมีนาคม ช่วงพลบค่ำ ดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า เหล่าสตาร์ลิ่งก็จะมารวมตัวกันเพื่อพักค้างคืนบนเตียงกก แต่ก่อนที่จะปักหลัก พวกมันจะมีการแสดงบนท้องฟ้าให้เราได้ชมกัน ซึ่งเรียกว่าThe Starling murmurations (the displays in the skies) 










พวกมันจะรวมตัวกันเป็นฝูงบินโฉบไปมาด้วยกัน ​เริ่ม​จาก​นก​เพียง​ตัว​เดียว​ หรือเป็นกลุ่มๆ เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ เป็นร้อ​ย เป็นพัน และเป็นหมื่น ๆ ใน​ไม่​ช้า ในระหว่างที่กำลังบินอยู่ พวกมันก็จะส่ง​เสียง​พึมพำ​กันไปมามาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ  โดยปกติแล้วจำนวนนกสูงสุดจะอยู่ที่เดือนธันวาคมถึงมกราคม ซึ่งช่วงที่นกจำนวนมากเข้ามาจากยุโรปและมาร่วมกับนกประจำถิ่น การแสดงของพวกมันดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก 











แต่ถึงแม้ว่าจะมีนกเป็นจำนวนมาก นกก็สามารถบินได้โดยไม่ชนกัน ซึ่งแต่ละตัวก็จะติดตามกลุ่มนกที่บินเข้ามาใกล้ที่สุด เมื่อตัวหนึ่งเปลี่ยนทิศทาง ตัวอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ก็จะปฏิบัติตามในทางเดียวกัน การเคลื่อน ไหวก็กระเพื่อมไปทั่วทั้งฝูง ทำให้เกิดรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เคยมีบันทึกไว้ที่ Shapwick Heath ใน Somerset ที่มีนกรวมตัวกันมากที่สุดประมาณ 6 ล้านตัวเลยทีเดียว






ไม่กินมะละกอสุกฉ่ำตามคุณยาย

มีใครบ้างที่ไม่กินเนื้อสัตว์บางประเภทอย่าง ผักบางชนิด หรือแม้กระทั้งผลไม้ ตามคนที่บ้านอย่างเช่นพ่อแม่ พี่น้องของตัวเอง ที่บ้านนกเป็นอย่างนั้น และสิ่งที่พวกเราไม่กินก็คือ



ขอบคุณภาพจาก Google
ไม่กินมะละกอสุกฉ่ำ ที่บ้านจะปลูกต้นมะละกอไว้กินเอง เป็นสายพันธุ์อะไรที่ปลูกไว้ คุณยาย (แม่) จำไม่ได้ ซึ่งต้นแรก ๆ คุณยายได้มาจากคณะฯ ในมหาวิทยาลัย ที่ท่านทำงานอยู่ (ตอนนี้เกษียณแล้ว) 




ซึ่งมะละกอเหล่านี้ปลูกมานานรุ่นต่อรุ่น เพราะเวลามะละกอนั้นออกลูกแรกๆ คุณยาย ก็จะปล่อยให้มันสุกฉ่ำเพื่อจะเก็บเมล็ดเอาไว้ปลูกครั้งต่อไป ส่วนเนื้อมะละกอ คุณยายก็จะปลอกเอาไปทำบุญที่วัด 





ที่บ้านจะนิยมเก็บมะละกอดิบมาทำแกงส้ม หรือไม่ก็นำมาทำส้มตำซึงเป็นเมนูชอบของทุกคน  แต่ถ้าหากมีมากเกินไปกินไม่ทัน คุณยายก็จะให้น้องสาวเรามาเก็บไปขายหน้าบ้าน 




แต่ถ้าหากต้องการจะกินแบบสุกก็จะปล่อยให้เริ่มสุกแดงแบบกรอบ ๆ (มะละกอห่าม) ถึงจะเก็บมาปลอกกิน ไม่เคยเลยที่จะปล่อยให้มีมะละกอแบบสุกฉ่ำ ๆ ติดต้นเอาไว้ 



ขอบคุณภาพจาก Google

เพราะคุณยายไม่ชอบกลิ่นของมะละกอแบบสุกฉ่ำ คุณยายว่ากลิ่นมันรุนแรงเกินไป ทำให้ลูกๆคนทุกติดนิสัยตามคุณยายไปด้วย 



ขอบคุณภาพจาก Google




One Day Trip/ช่วงหน้าร้อนที่ Hunstanton /ฮันสแตนตัน ( Hunstanton Town in England)

หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักร (United Kingdom) ในช่วงหน้าร้อน และชื่นชอบกลิ่นอายของลมทะเล อยากแนะนำให้มาท่องเที่ยวที่นี้  Hunstanton /ฮันสแตตัน  เป็นเมืองชายทะเลใน Norfolk (นอร์ฟอล์ก)  





Hunstanton อยู่ห่างจากลอนดอนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 164 กม. และอยู่ห่างจาก Norwich (นอริช) ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 64 กม. เราสามารถเดินทางด้วยรถไฟจากลอนดอน (King's Cross) ถึงปลายทางที่สถานี King's Lynn ได้เลยโดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 









Hunstanton เป็นเมืองตากอากาศเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 19 เดิมเรียกว่า New Hunstanton (นิวฮันสแตนตัน) เพื่อให้ชื่อต่างจากชื่อหมู่บ้านเดิม Old Hunstanton 




ในช่วงฤดูร้อนมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นิยมเดินทางมาพักผ่อน ท่องเที่ยวริมทะเล 





















และเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ศูนย์อนุรักษ์แมวน้ำ และล่องเรือ ออกไปชมแมวน้ำสีเทา แมวน้ำทั่วไป










ที่เกาะซึ่งเป็นแนวสันดอนทรายใน Wash และทางตอนเหนือของ Norfolk กับเรือท่องเที่ยว ซึ่งมีชื่อว่า Wash Monsters 








Wash Monsters  เครื่องจักรที่เป็นยานพาหนะทางทหารที่ผลิตขึ้นในปี 1967 เพื่อใช้เป็นเรือยกพลขึ้นบก บรรทุกเสบียงสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเบา (LARC) โดยกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ ในเวียดนาม เป็นเรือสะเทินน้ำสะเทินบกขนาด 60 ที่นั่ง เรือลำนี้แล่นด้วยความเร็ว 8 น็อตในน้ำ และ 13 ไมล์ต่อชั่วโมงบนพื้นทราย ในปี 2001 ทาง Searles Sea Tours ได้นำเรือลำนี้มาใช้ในการนำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่ง โดยขนส่งนักท่องเที่ยวจากชายหาดทรายแล่นขึ้นและลงจากชาย และในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมของทุกปี




 Searles Sea Tours จะจัดให้มีทัวร์ชมแมวน้ำ และท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลโดยใช้เรือสะเทินน้ำสะเทินบก เป็นการสำรวจประชากรแมวน้ำในพื้นที่และพื้นที่ชายฝั่ง และในขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์แบบพาโนรามาเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันยาวนานและตำนานที่เล่าขานเกี่ยวกับ The Wash   (ข้อมูลจาก Searles Sea Tours)














Wash Monster หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Wiley, the Wash Monster" และในปี 2013 เรือ Wiley ก็ได้คู่หู เป็นเรือ Wizzy The Wash Monster  ทั้ง Wiley และ Wizzy ได้รับการยกย่องว่าเป็นการเดินทางที่ตื่นเต้นประทับใจอันดับต้น ๆ ที่หลาย ๆ คนจะทำในการมาเที่ยวทาง ทางตะวันออกอังกฤษ (East of England)   






นอกจากนี้ทุก ๆ วันอาทิตย์จะมีตลาดขายผักผลไม้และปลาทะเล เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนให้มาท่องเที่ยว ซึ่งหลาย ๆ คนชอบเดินทางท่องเที่ยวแบบไปกลับในวันเดียว 













สมัยก่อนจะเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟ King's Lynn สุดปลายทาง ที่สถานีรถไฟ Hunstanton แต่ได้ถูกยกเลิก และ ปิดตัวไปเมื่อปี 1969  ดังนั้นการเดินทางในปัจจุบันจะเดินทางด้วยรถประจำทาง จากสถานีรถประจำทางที่ King's Lynn ถึง Hunstanton  หรือใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง





ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 58 นาที สำหรับรถประจำทาง และจะออกทุก ๆ 30 นาที โดยจะขึ้นรถประจำทางสาย 34 หรือ 36 ก็ได้ ส่วนรถยนต์ส่วนตัวจะใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที