1. น้ำหอม
ที่มาของความหอมที่ได้มาจากพืชนั้นมาจาก ดอก ใบ ลำต้น เปลือก เนื้อไม ้ราก เหง้า ผล เมล็ด หรือแม้กระทั้งยาง ส่วนความหอมที่มาจากสัตว์นั้นมาจาก สำรอกของวาฬ(Ambergris) กลิ่นจากบีเวอร์ (Castoreum) จากฮอร์โมนกวาง (Musk ) ฯลฯ
1.Eau Fraiche เป็นน้ำหอมที่เจือจางที่สุด โดย Eau Fraiche มีระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 1-3% เท่านั้น มีกลิ่นค่อนข้างอ่อนและไม่ค่อยติดทนนักประมาณ 1-2 ชั่วโมง ให้สัมผัสอ่อนเบากว่า เพราะไม่ค่อยมีแอลกอฮอล์แต่ผสมน้ำแทน ส่วนใหญ่ใช้ลูบไล้ผิวให้เกิดความสดชื่นหลังอาบน้ำมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
2.Eau de Cologne (EDC) หรือที่หลาย ๆคนรู้จักในชื่อว่า "โคโลญจน์" มีระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 2-4% กลิ่นของโคโลญจน์ติดได้นานขึ้นเมื่อเทียบกับ Eau Fraiche อยู่ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่มาก เป็นน้ำหอมที่ประพรมให้ความสดชื่นเย็นสบาย ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำหอมของผู้ชาย แต่ปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ได้ผลิตออกมาตอบโจทย์ทให้ผู้หญิงด้วยเช่นกัน หากต้องการให้ น้ำหอมประเภท Eau de Cologne (EDC) อยู่ทนตลอดวัน จะต้องฉีดซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
3.Eau de Toilette (EDT) ระดับความเข้มข้นของน้ำหอมที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง โดย Eau de Toilette (EDT)มีระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 5-15% ทำให้กลิ่นน้ำหอมอยู่ติดทนได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง เหมาะกับการฉีดพรมในช่วงกลางวัน หรือการทำกิจกรรมในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เช่น การออกช้อปปิ้ง ไปนั่งดืมกาแฟ รับประทานอาหาร ฯลฯ น้ำหอมประเภทนี้ยังเหมาะกับประเทศแถบเอเชียที่มีอากาศร้อน โดยเฉพาะบ้านเรา
4.Eau de Parfum (EDP) น้ำหอมที่มีระดับความเข้มข้นเกือบสูงที่สุด Eau de Parfum (EDP) โดยมีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 15-20% ให้กลิ่นติดทนนานประมาณ 5-6 ชั่วโมง มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในระดับสูงกว่า Parfum เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการฉีดพรมน้ำหอมในชีวิตประจำวัน ใช้ได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานเลี้ยงสังสรรค์ งานปาร์ตี้ในยามค่ำคืน ตลอดจนกิจกรรมอื่น ๆ ในตอนเช้าหรือตอนบ่าย ๆ ความหอมก็ยังติดทนอยู่ และสามารถฉีดเติมได้ตลอดเวลา
5.Parfum
น้ำหอมที่มีความเข้มข้นสูงสุดหากเทียบกับทุกระดับที่ผ่านมา ผสานหัวน้ำหอมเข้มข้นประมาณ 15-40% จึงให้การติดทนมากกว่าในระดับอื่น ๆ ติดทนนานได้ถึง 6-8 ชั่วโมง บางแบรนด์อาจอยู่ได้ถึง 10 ชั่วโมง ด้วยความเข้มข้นของน้ำหอมจึงมักในรูปแบบของขวดเล็ก ๆ นิยมใช้เพียงหยดแต้มเบา ๆ ก็จะได้กลิ่นหอมที่เพียงพอ น้ำหอมในระดับ Parfum เต็มไปด้วยความเข้มข้นของออยล์สกัดที่ผสมผสานอยู่ ทำให้น้ำหอมในระดับนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย หรือผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์ เนื่องจากน้ำหอมชนิดนี้จะไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง
Giorgio Armani Sì Eau de Parfum 100ml น้ำหอมที่มีระดับความเข้มข้น Eau de Parfum (EDP) โดยมีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 15-20% Giorgio Armani Sì เป็นน้ำหอมกลิ่นแนว Chypre ได้รับการคิดค้นขึ้นใหม่ ผสมผสานกลิ่นของแบล็คเคอร์แรนท์ ไซปรัสสมัยใหม่ ไม้สีบลอนด์มัสกี้ ดอกฟรีเซียและดอกกุหลาบเมย์ ทำให้กลิ่นน่าหลงใหลในทุกสัมผัส ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงยุค กลิ่นหอมติดทนนาน
GIVENCHY L'INTERDIT 80ml น้ำหอมที่มีระดับความเข้มข้นแบบ Eau de Parfum (EDP) น้ำหอม GIVENCHY ยึดหลักความเป็นคู่ คือมีทั้งความกระจ่างใสและเย้ายวน L'INTERDIT เปิดตัวด้วยความสดชื่นของกลิ่นส้ม เบอร์กาม็อท แมนดาริน อันเป็นเอกลักษณ์ของ Orange Blossom และ กลิ่นของ Cistus Flower มัสค์ และไม้จันทน์สีครีม หอมเย้ายวนโดดเด่นท้าทาย
Max Factor Crème Puff Pressed Powder เป็นเมคอัพแบบออล-อิน-วัน (All in one) และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับลุคธรรมชาติในชีวิตประจำวัน ติดทนนาน ทนความร้อนและความชื้น ทาทับได้ง่ายหากต้องการ ใช้เป็นรองพื้นหลังจากทามอยเจอร์ไรเซอร์ หรือใช้ Crème Puff Powder ลงบนรองพื้นและคอนซีลเลอร์เพื่อการปกปิดขั้นสุดยอดและผิวที่ไร้ที่ติโดยสิ้นเชิง เป็นการแต่งหน้าแบบครบวงจร ตัวแป้งละเอียด ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ทำให้ผิวสวยกระจ่างใสทันทีไม่ว่าจะในโอกาสใดๆก็ตาม Crème Puff Powder ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวแห้ง ผิวผสม และผิวมัน นอกจากนี้ยังมีสีให้เลือกถึง 8 สี จึงมีเฉดสีที่เหมาะกับทุกสีผิว ดังนั้น Max Factor Crème Puff Pressed Powder จึงเป็นแป้งที่ตอบโจทย์ได้ อย่างดี
มี 4 สีให้เลือก 4 สไตล์
01 เชอร์รี่ แดงสด
02 แอปเปิ้ล แดงอมชมพู
03 ช็อกโกแลต ส้มตุ่นน้ำตาลๆ
04 พลัม ชมพูสดใส
L'OREAL PARIS COLOR RICHE SATIN LIPSTICK 3.7 g เป็นลิปสติกเนื้อซาตินนุ่มลื่น สูตรเข้มข้นอุดมด้วยส่วนผสมของโอเมก้า 3 และวิตามินอี ทำให้ริมฝีปากริมฝีปากอิ่ม ชุ่มชื้นดูสุขภาพดี สีสดชัดติดทนเบาสบายปาก มี เฉดสีหลากหลายสีให้สาว ๆ ได้เลือกเลือกกว่า 30 เฉดสี ตั้งแต่สีนู้ดธรรมชาติ สีชมพูอ่อน ไปจนถึงสีแดงสดใส เหมาะกับอารมณ์หรือช่วงเวลาของวัน
5.ตัวล้างเครื่องสำอางแบบน้ำ/เจล/ออยล์/บาล์ม
NIVEA 3in1 Biodegradable Cleanser Wipes 25 Wipes ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าที่ใช้ไม่เพียงแต่ทำความสะอาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังอ่อนโยนให้ความชุ่มชื้นต่อผิวหน้า หลังทำความสะอาด NIVEA Biodegradable Cleansing Wipes เป็นผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าที่มีแอลกอฮอล์ 0% และอุดมด้วยน้ำมันอัลมอนด์ธรรมชาติ ช่วยขจัดคราบ เครื่องสำอางและมาสคาร่าแบบกันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวสะอาดและสดชื่นอย่างทั่วถึง ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ ผิวแห้ง ผิวธรรมดาและผิวแพ้ง่าย
6. มาส์กบำรุงผิว
7. เซรั่ม/น้ำตบ/โทนเนอร์
L'Oreal Paris Revitalift Filler 1.5% Pure Hyaluronic Acid Serum 30ml เซรั่มต่อต้านริ้วรอย ประกอบด้วยกรดไฮยาลูโรนิกบริสุทธิ์ 1.5% ให้ผิวชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น เรียบเนียนและเติมเต็มริ้วรอยจากภายใน มีโมเลกุลของกรดมาโครและไมโครไฮยาลูโรนิก ให้ความชุ่มชื้นและปรับผิวให้เรียบเนียน ช่วยให้ริ้วรอยดูอวบอิ่มจากภายใน เซรั่มไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเร็ว ผิวจะรู้สึกเด้งขึ้น กระชับขึ้น และสีผิวสม่ำเสมอขึ้น เรียบเนียนยิ่งขึ้น ใช้ 2-3 หยดบนใบหน้าและลำคอที่สะอาดก่อนขั้นตอนการดูแลและแต่งหน้า เป็นประจำทั้งกลางวันและกลางคืน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริงคุ้มค่าสมกับราคา ใช้เพียงไม่กี่หยด การใช้งานได้ยาวเห็นผลชัดเจน
8.บลัช/อายแชว์โดว์/อายไลน์เนอร์/เขียนคิ้ว
No7 Limited Edition Bronze Heat Face & Eye Palette การเลือกพาเลตต์อายแชโดว์ที่ดีที่สุด คือเลือกให้เข้ากับโทนผิวตัวเอง ดังนั้น No7 Limited Edition Bronze Heat Face & Eye Palette จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบเข้ากับทุกสีผิว พาเลตต์ประกอบด้วยอายแชโดว์ 6 เฉดสี พาเลตต์ยังมีไฮไลท์ที่สวยงามสองสีในโทนสีแชมเปญและสีบรอนซ์ เพื่อเพิ่มความเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติของใบหน้า วิธีใช้อายแชโดว์ทาด้วยแปรงหรือนิ้วบนเปลือกตา เกลี่ยขึ้นและออกไปด้านนอกตามระดับความเข้มข้นที่ต้องการ ส่วนไฮไลท์ทาลงบนโหนกแก้ม กลางหน้าผาก สันจมูก และปลายคาง