คนเราใจร้อนกันจริง ๆ นิทานที่โดนใจ

จริง ๆ แล้วมีนิทานหลาย ๆ เรื่องที่อ่านแล้วชอบและยังจำได้ดีจนถึงเดี๋ยวนี้  แต่จะขอเลือกเรื่องนี้มาเล่าให้ทุก ๆ คนได้ฟังกัน เพราะบังเอิญเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนกำลังเถียงไม่ยอมความกันในเมือง เราเดินผ่านไปยังกลัว ๆ เถียงกันเสียงดังมาก ๆ คนที่เดินไปมาก็มองว่าเกิดอะไรขึัน ดีหน่อยมีใครคนหนึ่พูดว่าจะโทรเรียกตำรวจมานะถ้ายังไม่หยุด คนเราเดี๋ยวนี้นิด ๆ หน่อย ๆ ก็หัวร้อน 





ภาพจาก Google


นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องของแพะสองตัวที่อยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่มีแม่น้ำกั้นกลางระหว่างสองฝาก ดังนั้นชาวบ้านจึงร่วมใจกันสร้างสะพานเล็ก ๆ เอาไว้ข้ามฝั่งได้ทีละคน



ภาพจาก Google


มีแพะที่อยู่ในหมู่บ้านกำลังจะข้ามสะพาน มันเห็นแพะอีกตัวกำลังเดินข้ามมาจากอีกฟาก แพะทั้งสองก็ต่างรอให้อีกฝ่ายถอย แต่ก็ไม่มีใครยอมถอยใคร แพะตัวหนึ่งพูดว่า “เจ้าควรจะให้ข้าไปก่อน เพราะข้าแก่กว่าและยังแข็งแรงกว่าเจ้า” ส่วนแพะอีกตัวก็ไม่ยอม เถียงกลับไปว่า “เจ้าต่างหากที่ควรถอยไป ข้าแข็งแรงกว่า แล้วเจ้าแก่คงจะต้องใช้เวลานานกว่าข้ามไปถึงอีกฝั่ง”  แพะทั้งสองตัวเถียงกันไปมา



ภาพจาก Google


จึงทำเกิดเป็นเรื่องเป็นราวให้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทำให้ทั้งคู่เกิดพลาดตกแม่น้ำที่มีกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดพาพวกมันลงไปในน้ำลึก จนทำให้แพะทั้งสองตัวจมน้ำตาย ผ่านไปไม่นานก็มีแพะอีกสองตัวผ่านมาที่สะพานจากคนละฟาก เหตุการณ์ก็ซ้ำเช่นเดิม แพะสองตัวก็เถียงกันว่าใครจะได้ข้ามสะพานก่อนแล้วอีกตัวต้องถอย แต่ครั้งนี้แพะตัวหนึ่งกลับคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพูดว่า  “สะพานนี้แคบเกินไป ถ้าเราต้องต่อสู้กันก็จะทำให้ตกลงไปในแม่น้ำและจมน้ำตายได้  แต่ข้ามีวิธี ข้าจะหมอบลง แล้วเจ้าก็เดินข้ามข้าไป” แพะอีกตัวหนึ่งเห็นด้วยและชื่นชมในความฉลาดของแพะตัวนั้น มันรอให้แพะผู้ออกไอเดียนอนหมอบลง แล้วจึงเดินข้ามไป ในที่สุดแพะทั้งสองตัวก็ข้ามสะพานได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องออกแรงต่อสู้ให้เป็นอันตรายเแก่ชีวิต








ภาพจาก Google

นักเดินทาง เพลงที่ตรงกับตนเองมากที่สุด






หากให้เปรียบถึงเพลงที่หน้าจะใก้ลเคียงตัวเองมาก ๆ น่าจะเป็นเพลงนักเดินทาง ของกัมปะนี  เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบการท่องเที่ยว เดินทางออกไปพบกับผู้คน วัฒนธรรมการเป็นอยู่หรือสถานที่สิ่งต่าง ๆ เป็นการหาประสบการณ์ใหม่ๆในชีวิตให้กับตัวเอง 



























เวลาไปท่องเที่ยวสิ่งที่เรามักจะเก็บไว้ในความทรงจำคือการเก็บภาพถ่ายของสถานที่ต่าง ๆ  นอกจากภาพถ่ายแล้ว ยังมีโปสการ์ดและที่ติดตู้เย็นของสถานที่นั้น ๆ
ที่เราจะซื้อหาเป็นของที่ระลึกเก็บกับบ้านอยู่เสมอหากมีโอกาส  สถานที่ที่ไปนั้น จะไม่เลือกว่าจะไปไหนจะเป็นแม่น้ำ ทะเล ภูเขา หรือแม้แต่ในเมืองหลวงใหญ่  ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ






























































 
การเดินทางในแต่ละครั้งไม่ได้เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก เน้นถึงสถานที่ๆจะไป อาจจะไปนอนกางเต็นท์ชิลๆ  อยู่กับธรรมชาติ ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงลมเสียงนกร้อง มีความสุขกับสิ่งที่ได้พบเจอ  หรือบางครั้งการเลือกแบบสบาย ๆ นอนบนเตียงนุ่ม ๆ ตื่นมามีอาหารเช้าพร้อมก็จองที่พักของโรงแรม ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวของเราไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นแบบไหน แค่มีใจที่อยากจะไปเท่านั้นเป็นพอ














































นักเดินทาง
 ศิลปิน กัมปะนี
อัลบั้ม ไม่มีจำกัด
คำร้อง สุรักษ์ สุขเสวี
ทำนอง/เรียบเรียง สมชัย ขำเลิศกุล

จากเวลาที่ยาวนานกับวันวานที่เลยไป
จะมีภาพที่ใจยังจดยังจำไว้ทุกคืนวัน
ผ่านไปเร็วดูราวเหมือนฝัน
ภาพความหลังครั้งนั้นไม่เคยเก่า
ย้ำและเตือนในหัวใจเราตลอดเวลา
เปรียบดังเป็นนักเดินทาง ที่รอนแรมหนทางไกล
ย่อมมีเรื่องมากมาย  มากับทางไกลที่ได้เดินมา
สู่ปลายทางในการค้นหา
ผ่านภูผาขุนเขาที่กว้างใหญ่
ทิ้งร่องรอยเอาไว้ในใจ ไม่อาจลืมเลือน
ล่วงเลยผ่านไป  ถูกกลืนกับกาลเวลา
ไม่พบอะไรยั่งยืน ดุจกระแสน้ำที่ไม่คืนกลับมา   หันมองกลับไป ก็มีแต่ความทรงจำ
ชีวิตที่เคยผ่านมา
เปี่ยมด้วยรอยยิ้มและน้ำตาเก็บไว้ 
จากทางไกลที่เดินมา สู่เวลาที่เดินไป
ไม่มีหนทางใดที่จะนำวันนั้นหวนคืนมา
เก็บความจริงในการค้นหา
เป็นบันทึกล้ำค่าและยิ่งใหญ่
เขียนเรื่องราวเอาไว้ในใจ  ตลอดเวลา