คำมั่นสัญญา (Vow Ceremony )

"คำมั่นสัญญา" ในชีวิตของคนเรานั้นจะให้คำมั่นสัญญากันสักกี่ครั้ง จะมีสักกี่คนที่จะทำได้ตามที่ให้สัญญาไว้ทั้งหมดหรือเปล่านั้น เราไม่อาจจะรู้ได้ 




Vow Ceremony  เป็นการให้คำมั่นสัญญาของคู่บ่าวสาวในวันแต่งงาน ซึ่งคำมั่นสัญญาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงของพิธีการแลกแหวนแต่งงาน  





โดยคู่บ่าวสาวจะให้คำสัญญาว่าจะรัก ดูแล และอยู่เคียงข้างกัน ช่วยเหลือกันแก้ปัญหาทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น 
คำมั่นสัญญาจึงเป็นข้อผูกมัดของชีวิตของคู่แต่งงาน ทำให้การดำเนินชีวิตของคู่สมรสเป็นไปด้วยความมั่นคงและซื่อสัตย์ เมื่อเกิดปัญหาอะไรในชีวิตคู่ ก็จะนึกถึงคำสัญญาในวันแต่งงานที่ทั้งสองมีไว้ให้กันอย่างเช่น

I give you this ring as a symbol of our marriage, And as a token of my love and affection, 
I promise to care for you always And to keep our love and friendship as it is today. 




I  call upon these persons here present, to witness that I......do take thee ......to be my lawful wife/husband.




อ้างว้าง วงCLASH




ขอบคุณภาพจากGoogle


หากจะพูดถึงที่มาของวงCLASH ต้องเกิ่นนำในปี พ.ศ. 2540 มีสมาชิกห้าคนซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในพระบรมราชูปถัมภ์  มารวมตัวกันโดยใช้ชื่อวงของตนว่า ลูซิเฟอร์ เพื่อใช้เข้าประกวดการแข่งขันรายการดนตรีฮอตเวฟมิวสิกอวอร์ดส์ (Hot Wave Music Awards) ครั้งที่ 2 และ 3 ซึ่งในการแข่งขันครั้งที่ 3 วงลูซิเฟอร์ ประสบความสำเร็จได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง หลังจากชนะการแข่งขันในครั้งนั้น พวกเขาก็เซ็นสัญญาและเข้าร่วม UP G Record (ภายใต้สังกัด GMM Grammy Records) ในปี พ.ศ. 2544 และเปลี่ยนชื่อวงเป็น "Clash"โดยมี ปรีติ บารมีอนันต์ (ร้องนำ),ธนพล โรคสมพุด(กีตาร์),ฐาปนา บางช้าง (กีตาร์),สุกฤษฎิ์ ศรีเปารยา (เบส) และอนันต์ ดาบเพชรธิกร (กลอง)



ขอบคุณภาพจากGoogle

วงCLASH ได้ออกอัลบั้มชุดแรกในชื่อ "วัน"  ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2544 โดยออกซิงเกิลแรกในเพลง "กอด" ผลงานการประพันธ์ของปรีติ บารมีอนันต์ (แบงค์) นักร้องนำของวงและเรียบเรียงดนตรีโดยกลุ่มสมาชิกของวง สำหรับเนื้อหาเพลงของวงCLASH มีทั้งเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรัก อกหักปลอบใจ ความสมหวัง คิดถึง และให้กำลังใจ รวมถึงแนวสะท้อนสังคม เสียดสีสังคม



ขอบคุณภาพจากGoogle

วงCLASHได้รับรางวัลการยกย่องเป็นตำนานของเพลงร็อกไทยและได้รับรางวัลจากสื่อมวลชนและรายการรางวัลดนตรีมากมาย นอกจากนี้แบงก์(ปรีติ )นักร้องนำของวงมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์
มีความสามารถในการประพันธ์เพลงโดยมีเพลงของวงจำนวนไม่น้อยที่เขาเป็นคนแต่ง 



ขอบคุณภาพจากGoogle

แต่่เป็นที่น่าเสียดายในปี พ.ศ. 2553 วงCLASHได้แถลงการณ์ยุบวง โดยให้เหตุผลว่าสมาชิกมีความคิดเห็นมุมมองและทิศทางการทำงานที่แตกต่างกันออกไปจึงหันไปทำแนวเพลงที่ต่างชื่นชอบกัน  วงCLASH จึงถือได้ว่าเป็นวงดนตรีแนวร็อกในตำนานยุคเก้าศูนย์ที่หลายคน ๆ ชื่นชอบมาจนถึงปัจจุบันนี้

เพลง อ้างว้าง 
วงCLASH

เธอคือคนที่ฟ้าจงใจกำหนดไว้
ขีดชีวิตให้เธอกับฉันรักกันเเล้วพรากจาก
ใจกำลังเรียนรู้เพิ่งเริ่มจะเรียนรัก
สิ่งที่ฝันก็พลันสลายภายในพริบตา
ขาดเธอ
เหมือนใจจะขาดหาย
เจ็บปวดใจ
ไม่อยากทนรับรู้ความจริง
เธอจากไปเเล้ว
ชีวิตที่เหลืออ้างว้างทรมาน
และไม่อาจรู้จะอยู่ได้อย่างไร
ก็เพราะชีวิตฉันนั้นมีเพียงเธอ
เป็นดังลมหายใจ
วันเวลาที่เหลือใช้ไปกับความเหงา
ก็ไม่รู้จะทนปวดร้าวได้นานสักเท่าไหร่
ไกลกันคนละฟ้าตัวเธอได้ยินไหม
ใจมันเพ้อครวญครางว่ารักได้ยินไหมเธอ
ขาดเธอ
เหมือนใจจะขาดหาย
เจ็บปวดใจ
ไม่อยากทนรับรู้ความจริง
เธอจากไปเเล้ว
ชีวิตที่เหลืออ้างว้างทรมาน
และไม่อาจรู้จะอยู่ได้อย่างไร
ก็เพราะชีวิตฉันนั้นมีเพียงเธอ
เป็นดังลมหายใจ
ขาดเธอ
เหมือนใจจะขาดหาย
เจ็บปวดใจ
ไม่อยากทนรับรู้ความจริง
เธอจากไปเเล้ว
ชีวิตที่เหลืออ้างว้างทรมาน
และไม่อาจรู้จะอยู่ได้อย่างไร
ก็เพราะชีวิตฉันนั้นมีเพียงเธอ
เป็นดังลมหายใจ
ชีวิตที่เหลืออ้างว้างทรมาน
และไม่อาจรู้จะอยู่ได้อย่างไร
ก็เพราะชีวิตฉันนั้นมีเพียงเธอ
เป็นดังลมหายใจ





วิธีคลายร้อนต้อนรับซัมเมอร์



คุยกับคุณยายบอกว่าร้อนมาก ยิ่งอาทิตย์นี้พยากรณ์อากาศแจ้งว่าจะมีอุณหภูมิความร้อนเพิ่มขึ้นเกือบทุกที่ของประเทศ อากาศร้อนแบบนี้ เพื่อน ๆ มีวิธีคลายร้อนกันบ้างแล้วหรือยัง หากยังไม่มี วันนี้นกมีคลายร้อนมาบอกเพื่อนๆกันค่ะ 

1.รับประทานผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ที่รสไม่หวานจัด อมเปรี้ยว แคลอรี่ต่ำ เช่น  สับปะรด ลางสาด กีวี่ มังคุด ส้มโอ สาลี่ เชอร์รี่ ผลไม้ประเภทเบอร์รี่ มะม่วงดิบ มะละกอดิบ พุทรา ลูกท้อ ชมพู่ มะยม  แอปเปิ้ล  นอกจากนี้แล้วยังมีแคนตาลูป แตงโม แตงไทย แก้วมังกร และน้ำมะพร้าวอ่อน ฯลฯ ผลไม้เหล่านี้จะปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายเย็นสบาย 




2.อากาศร้อนทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งอาจทำให้เป็นลมแดดหรือเป็นตะคริวแดดได้ ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร ต่อวัน โดยดื่มทีละน้อย ไม่ดื่มเร็วๆ หรือมากเกินไป การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นและสบายตัวขึ้น 




3.รับประทานน้ำแข็ง ในช่วงหน้าร้อนน้ำแข็งจะเป็นตัวเลือกในการคลายความร้อนของหลาย ๆคน แต่จะต้องเลือกซื้อน้ำแข็งที่มีคุณภาพ เพราะน้ำแข็งสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายในหน้าร้อนได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นควรเลือกซื้อน้ำแข็งที่ถุงบรรจุภัณฑ์ที่อยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีรอยฉีกขาด มีฉลากจาก อย. หรือจะทำแข็งเองที่บ้าน ถูก สะอาดและประหยัดอีกด้วย
4.รับประทานของหวานเย็นๆ เช่น ไอศกรีม น้ำแข็งไส น้ำผลไม้ปั่น ฯลฯ















5.หลีกเลี้ยงการออกจากบ้านในช่วงเวลาที่แดดจัด ๆ ซึ่งช่วงเป็นช่วงเวลา 11.00-14.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดมีรังสียูวีบี (UVB) ปริมาณสูงสุด ควรจะพักร้อนอยู่ที่บ้านเปิดพัดลม แอร์ หรือเปิดหน้าต่างช่วงเย็น ๆ เพื่อที่จะให้กระจายความร้อนภายในบ้านออกไปกลางคืนจะได้นอนหลับสบาย และหากจำต้องออกไปข้างนอกในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ควรสวมหมวกที่สามารถป้องกันแสงแดดหรือจะพกพาร่มกันแดดติดมือไปด้วย ใส่เสื้อแขนยาวปิดมิดชิด แสงแดดจะได้ไม่ทำร้ายผิวหนังที่สำคัญต้องทาครีมกันแดด และอย่าลืมพัดลมมือถือ พกพาติดตัวช่วยพัดให้หายร้อนไปได้
 
 


6.อยู่บ้านควรสวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อนๆและเนื้อผ้าเบาสบายไม่กักเก็บความร้อน หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีสีเข้มๆ หนา ๆ เพราะเสื้อผ้าสีเข้มจะดูดซับความร้อน ทำให้ความร้อนไม่กระจาย ควรสวมรองเท้าแบบเปิด ใส่สบายและระบายอากาศได้ดี เพราะหน้าร้อนใส่แบบมิดชิดจะทำให้เกิดเท้าอับได้




7.อาบน้ำบ่อยครั้ง เมื่อรู้สึกร้อนไม่สบายตัว จากนั้นก็ทาแป้งเย็นให้ทั่ว ๆ จะทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นและสดชื่นขึ้น สำหรับแป้งเย็นมีหลากหลายให้เลือกเอาที่ถูกใจ




8.ออกไปพักร้อนท่องเที่ยวรับลมเย็นๆ ใกล้แม่น้ำ น้ำตก หรือทะเลแล้วแต่จะชอบ 
















เกิดเหตุฉุกละหุกไม่คาดคิด

คุณพ่อเป็นตัวของตัวเองมีความเชื่อมันในตัวเอง เป็นคน “อินดิเพนเดนท์” (Independent) ถึงแม้ว่าอายุท่านจะมากแต่ก็ชอบอยู่คนเดียว ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ๆ เดือนธันวาคมมีเรื่องฉุกละหุกเกิดขึ้นกับคุณพ่อ ซึ่งท่านล้มในห้องนั่งเล่น ตั้งแต่ตอนกลางคืนจนถึงเช้าของอีกวัน เป็นเวลา 13 ชั่วโมงโดยไม่มีใครรู้ 



โชคดีที่พวกเราไปเยี่ยมท่านอยู่เป็นประจำในช่วงสาย ๆ และวันนี้ก็เหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่ไป แต่แปลกตรงที่ปกติแล้วหน้าต่างห้องนั่งเล่น ผ้าม่านก็จะเปิดออก แต่วันนี้ไม่เป็นแบบนั้น ประตูบ้านก็ยังล๊อคยู่ไม่ได้เปิดล๊อคแต่อย่างใด  พวกเรามีกุญแจสำรองสามารถไขเข้าไปได้ พบว่าท่านล้มนอนอยู่บนพื้นในห้องนั่งเล่น โชคดีที่ห้องนั่งเล่นปูพื้นด้วยพรม พี้นไม่แข็งและไม่เย็น 



ตอนที่เจอะท่านพูดคุยได้ดี มีแผลที่ข้อศอกเล็กน้อย เพราะตอนล้มข้อศอกไปขูดกับโซฟา จากสายตาของเราเท่าที่เห็น เราคุยเป็นเพื่อนท่าน ส่วนคนที่บ้านแยกไปโทรติดต่อฉุกเฉิน ซึ่งทางฉุกเฉินก็ให้ความรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับคนเจ็บ และจะรีบส่งหน่วยรถพยาบาลมาที่บ้านเร็วที่สุดไม่เกิน 45 นาที  



ขอบคุณภาพจาก Google

ระหว่างที่รอรถอยู่นั้น เราก็ถามท่านว่าทำไม่ ถึงไม่กดสัญญาณฉุกเฉิน คุณพ่อก็บอกว่ากดทั้งคืน แต่ไม่มีสัญญา เรียกถึงทางบริษัทที่ดูแลเรื่องสัญญาณฉุกเฉินเลย ทำให้พวกเราไม่รู้ว่าคุณพ่อท่านล้ม 


ขอบคุณภาพจาก Google


สำหรับสัญญาณฉุกเฉินนั้นเราได้ติดต่อบริษัท ทางบริษัทได้ส่งเครื่อง พวกตัวกดพกพามาให้ที่คุณพ่อ ซึ่งตอนติดตั้งก็มีการทดสอบ เป็นอย่างดีว่าสัญญาณฉุกเฉินวทำงานหากมีการกดเรียก ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตอบรับ และแจ้งเหตุมายังญาติที่แจ้งหมายเลขเอาไว้ทำให้รู้ว่ามีเหตุเกิดขึ้นที่บ้านคุณพ่อ ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งก็ไม่น้อยเลย หลังจากที่พวกเรารออยู่ประมาณ 15 นาที หน่วยรถพยาบาลก็มาถึง ซึ่งมาเร็วมาก ๆ ในรถพยาบาลมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 3 คน พอมาถึงเจ้าหน้าที่ 2 คน ก็เริ่มเข้ามาดูแลคุณพ่อ วัดความดัน  วัดค่าออกซิเจน ตรวจดูสภาพร่างกาย ซึ่งท่านก็พูดคุยกับเจ้าหน้าทีตามปกติ และมีเจ้าหน้าอีกคนเข้ามาสอบถามพูดคุยซึ่งเราก็ได้แจ้งเรื่องสัญญาณฉุกเฉิน พอได้ทราบเรื่องเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ติดต่อไปยังบริษัทที่รับผิดชอบเรื่องสัญญาณฉุกเฉินทันที 



ขอบคุณภาพจาก Google

จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคุณพ่อก็เข้าสอบถามรายละเอียดประวัติเกี่ยวกับคุณพ่อ และแจ้งว่าร่างกายไม่มีกระดูกส่วนไหนหัก แต่จะต้องส่งตัวคุณพ่อไปโรงพยาบาล เนื่องจากความดันต่ำ และออกซิเจนในเลือดต่ำ ต้องได้รับการดูแล ทางเจ้าหน้าที่ก็เตรียมเคลื่อนย้ายคุณพ่อไปโรงพยาบาล พวกเราก็ต้องเตรียมของใช้ของใช้ที่จำเป็นและเตรียมตัวตามคุณพ่อไปโรงพยาบาล วันนี้จึงเป็นวันที่ฉุกละหุกและน่าตกใจสำหรับพวกเราทุกคนจริง ๆ 



ขอบคุณภาพจาก Google



"ติดเป็นนิสัย"

 
เรื่องติดเป็นนิสัยของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป จะมากหรือน้อยแล้วแต่  คำว่า "ติดเป็นนิสัย" หมายถึง สิ่งที่กระทำอยู่อย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน จนคุ้นชิน กระทำไปอย่างลืมตัว บางอย่างก็ดี บางอย่างก็ไม่ดี ส่วนเรื่องการติดนิสัยของตัวเอง เรื่องแรกคือการติดหวาน ขนมและเครื่องดื่มทุกอย่างที่มีความหวานชอบหมด อย่างขนมไทย ขนมฝรั่ง ต้องมีใส่กล่องติดตู้เอาไว้ 




ขนมบางอย่างก็ซื้อ บางอย่างก็ทำเอง เอาไว้กินกับชาหรือกาแฟ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีของตัวเองสักเท่าไร อย่าจะลดหวานก็ยังทำไม่ได้ดีพอ 




ตอนอายุเริ่มเยอะขึ้นกลัวเรื่อง ค่าน้ำตาลในเลือดสูง  ซึ่งไม่ค่อยจะดีต่อสุขภาพมากนัก ปีนี้เลยคิดจะเริ่มต้นตัดความหวานออกบ้างบางครั้ง




เรื่องที่สองที่ติดนิสัย เป็นเรื่องตอนเด็ก ๆ เวลานอนเราชอบกอดหมอนข้าง ถ้าไม่กอดคิดว่าจะนอนไม่หลับ ตามประสาเด็ก ๆ  พอโตมาหน่อยมีเจ้าหมีน้อยบนที่นอนเพิ่มขึ้น เลยเปลี่ยนจากหมอนข้างไปกอดเจ้าหมีน้อยแทน




เวลาที่นอนไม่หลับ แลมีสิ่งหนึ่งที่ทำตอนนอนไม่หลับคือ จะเอามือบีบตรงส่วนมือของเจ้าหมีน้อยไปเรื่อย ๆ นานเท่าไรไม่รู้ แต่สิ่งที่ทำนั้นทำให้หลับไปเอง โดยไม่รู้ตัว เราคิดว่ามันคงช่วยให้เราผ่อนคลายและนอนหลับอย่างสบายใจ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องย้ายที่นอน 




จากที่เคยนอนอยู่เป็นประจำทุก ๆ วันๆ ไปนอนที่อื่นๆ เจ้าหมีน้อยจะเป็นเพื่อนไปด้วยตลอด เอาไว้กอดข้างกายเป็นเรื่องที่ทำอยู่จนปัจจุบัน ถึงแม้ว่าอายุจะมากแล้วก็ตาม




ติดเป็นนิสัย เรื่องสุดท้ายคือชอบจดบันทึกเตือนความจำในสมุดไดอารี ซึ่งในปัจจุบันหลาย ๆคนจะบันทึกเตือนความจำในโทรศัพท์มือถือพอถึงวันโทรศัพย์ก็จะส่งเสียงเตือนความจำให้โดยอัตโนมัติ แต่เรายังเลือกใช้สมุดไดอารี พกพาไปไหน ๆ ด้วยตลอด ส่วนใหญ่จะจดบันทึกรายการนัดประจำวัน วันนี้ต้องทำอะไรที่ไหน ต้องไปพบกับใคร หรือไปท่องเที่ยวที่ไหนก็จะจดเอาไว้จะได้ไม่ลืม ซึ่งจะเขียนเป็นการเตือนความจำทั่วๆ ไปสั้น ๆ  ไม่ได้เขียนเต็มรูปแบบแต่ก็อ่านแล้วเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น





ของเล่นในยุค 90





ขอบคุณภาพจาก Google


ของเล่นในวัยเด็กที่เราหลายคนๆ ไม่ลืมเลือนในยุค 90s และยังคงนึกถึงมันอยู่เสมอนั้นก็คือ “ทามาก็อตจิ” (Tamagotchi)  เจ้าสัตว์เลี้ยงอิเล็กโทรนิกส์ ที่เราจะต้องดูแลรักมันอย่างกับลูกกับหลาน ตั้งชื่อ เอาใจใส่ให้อาหารให้น้ำ เพื่อที่เจ้าสัตว์เลี้ยงจะได้เจริญเติบโต บางครั้งต้องตื่นนอนขึ้นมาไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยามเพื่อจะให้อาหาร เราจะพกพาไปไหนมาไหนด้วยตลอด ทิ้งไม่ได้  ช่วงกลางวันตั้งเวลามาเล่นเป็นเพื่อน เหมือนกับเล่นกับสัตว์เลี้ยงจริงๆ ไม่สบายก็ต้องรักษาให้ยาแก่มันและหากไม่ดูแลเอาใจใส่ ทิ้งไว้นานๆ มันก็จะน้อยใจ ก็จะตายได้ เราจะต้องรอให้มันเกิดใหม่ นั้นหมายความว่าเราต้องเริ่มต้นเลี้ยงใหม่ 




ขอบคุณภาพจาก Google


การเลี้ยงดู “ทามาก็อตจิ”จะมีปุ่มให้เราควบคุมเครื่องเป็นปุ่มกดจำนวน 3 ปุ่ม มาพร้อมด้วยสายคล้อง เหมือนกับสายคล้องพวงกุญแจ ทุก ๆ ครั้งที่ “ทามาก็อตจิ” ส่งเสียงดังร้องเรียก นั้นหมายถึง เราจะต้องดูแลว่ามันต้องการอะไร“ทามาก็อตจิ” ยิ่งเรารักและเอาใจใส่มัน มันยิ่งมีความสุขโตวันโตคืน แุถมน่ารักฉลาด แสนรู้อีกด้วย


ขอบคุณภาพจาก Google


และอีกตัวก็เกมส์ในโทรศัพท์ Nokia 3310 โทรศัพท์มือถือเครือข่าย GSM. ที่ได้มีการประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ปี 2000. และวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 ของปีเดียวกันและสิ่งสำคัญที่สุดของ Nokia 3310 คือ 'ความทน' ต่อให้ตกพื้นจนเครื่องแตก แบตเตอรี่กระจาย แค่เเก็บชิ้นส่วนมาประกอบใหม่ก็ฟื้นชีวิตกลับมาใช้งานได้ตามปกติหรือ แม้แต่ตกน้ำ เช็ดน้ำทำให้แห้ง เปิดเครื่องใช้ก็ได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในโทรศัพท์ Nokia 3310 นี้มีเกมส์ทั้งหมด 4 เกมส์ ได้แก่ Snake II (เกมงู) Pairs II (เกมจับคู่) Space Impact (เกมตะลุยอวกาศ) และ Bantumi (เกมหมากหลุม) ซึ่งเกมส์เหล่านี้เราเล่นหมดทุกตัว แต่ตัวที่เล่นบ่อย ๆ ที่สุดก็เห็นจะเป็น เกมส์งู




เกมส์งูเป็นเกมส์ที่เเล่นง่ายมากๆ เพียงแค่ควบคุมงูที่อยู่กลางจอของเรา ให้วิ่งไปกินจุด ให้ตัวยาวขึ้นเรื่อย ๆ  จนกว่าตัวงูจะใหญ่คับจอจนเลื้อยไปทางไหนไม่ได้แล้ว สิ่งที่ต้องระวังในการเล่น คือต้องระวังไม่ให้งูไปชนกับขอบจอ หรือชนหางตัวเอง พอตัวงูยาวขึ้น ก็จะควบคุมลำบาก จุดก็ต้องกินอาหารขอบก็ต้องระวัง หางก็อย่าชน และหากหากชนตู้มตาย ก็จะจบเกม เริ่มต้นกันใหม่ 




จริง ๆ แล้ของเล่นในยุค90 ยังมีอีกหลายอย่าง แต่ที่นำมาบอกเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังเพราะเป็นเกมส์ที่ตนเองเล่นอยู่เป็นประจำ

อังกะลุง

อังกะลุง เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องกระทบทำจากไม้ไผ่ เล่นโดยการเขย่าให้เกิดเสียง อังกะลุงมีต้นกำเนิดในบริเวณที่เป็นจังหวัดชวาตะวันตก และจังหวัดบันเตินของประเทศอินโดนีเซีย และยูเนสโกได้รับรองอย่างเป็นทางการว่าอังกะลุงเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ของมนุษยชาติ สำหรับอังกะลุงในเมืองไทยเข้ามาครั้งแรก ประมาณ พ.ศ. 2451 โดยหลวงประดิษฐ ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)  เมื่อครั้งที่เสด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงพันธุวงศ์วรเดช เสด็จพระราชดำเนินประพาสเกาะชวา




Grey Seal (แมวน้ำสีเทา)




Grey Seal เมื่อคุณเดินไปตามชายฝั่งนอร์ฟอล์ก ( Norfolk Coast) คุณอาจจะได้พบกับแมวน้ำสีเทาอยู่ในน้ำ แมวน้ำสีเทาเป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์ ประชากรแมวน้ำสีเทาในนอร์ฟอล์กมีประมาณ 3,000 ตัว เกิดที่เบลคนีย์พอยต์ (Blakeney Point) และ 2,000 ตัว ที่หาดฮอร์ซีย์ (Horsey Beach) ประมาณ 50% ของประชากรแมวน้ำสีเทาทั่วโลกอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งอังกฤษ ทำให้สหราชอาณาจักรเป็นพื้นที่เพาะพันธุ์ที่สำคัญสำหรับพวกมัน




แมวน้ำสีเทาให้กำเนิดลูกตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนมกราคม ลูกแมวน้ำสีเทาถูกแม่ของพวกมันป้อนอาหารบนชายหาดเป็นเวลาสามสัปดาห์ พวกมันมีน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัมต่อวัน หลังจากผ่านไปสามสัปดาห์ แม่ก็จะทิ้งลูกไว้อยู่บนชายหาดตามลำพัง ในขณะที่ลอกคราบขนสีขาว หลังจากนั้นมันจะออกทะเล เพื่อเรียนรู้การล่าสัตว์สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ แม่จะต้องไม่ถูกรบกวนในช่วงแรกไม่เช่นนั้นแม่อาจละทิ้งลูกหรือไม่สามารถให้อาหารลูกได้มากพอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกจะได้รับน้ำหนักที่เหมาะสมก่อนที่จะปล่อยให้พวกมันดูแลตัวเอง มันเป็นชีวิตที่ยากลำบากในการเป็นลูกแมวน้ำสีเทา โดยมีลูกแมวน้ำประมาณ 50% เสียชีวิตในปีแรก




มโนราห์ (Menora)

มโนราห์ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า โนรา เป็นการแสดงละคร ดนตรี และกายกรรมแบบดั้งเดิมมีต้นกำเนิดมาจากภาคใต้ของประเทศไทย การแสดงดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับละครชาตรีซึ่งเป็นศิลปะอีกรูปแบบหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากภาคกลางของประเทศ โดยมีเนื้อเรื่องคล้ายคลึงกัน ซึ่งนำมาจากนิทานชาดกของมโนหราห์ ที่มีอายุมากกว่าห้าร้อยปี การแสดงส่วนใหญ่จะอยู่ในชุมชนท้องถิ่นภาคใต้ งานวัดและกิจกรรมทางวัฒนธรรม มโนราห์ เป็นการถ่ายทอดผ่านการฝึกอบรมโดยปรมาจารย์พื้นบ้าน องค์กรชุมชน และสถาบันการศึกษา มโนราห์มีแม่บทท่ารำอย่างเดียวกับละครชาตรี บทร้องเป็นกลอนสด ผู้ขับร้องต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบ สรรหาคำให้สัมผัสกันได้อย่างฉับไว มีความหมายทั้งบทร้อง ท่ารำและเครื่องแต่งกายเครื่องดนตรีประกอบด้วย กลอง ทับคู่ ฉิ่งโหม่ง ปี่นอก หรือ ปี่ใน และกรับ เดิมนิยมใช้ผู้ชายล้วนแสดง แต่ปัจจุบันมีผู้หญิงเข้าไปแสดงด้วย




ครีมกันแดดตัวเด็ดปี2024 ของเรา

สาว ๆ รู้หรือไม่ว่าการแก่ชราของผิวมีสาเหตุมาจากรังสียูวี  ซึ่งได้แก่ จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัยทั่วทั้งสีผิว สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นแพทย์ผิวหนังจึงแนะนำให้ปกป้องผิวจากรังสียูวี  โดยการใช้ครีมกันแดดในการป้องกันผิวจากริ้วรอยและอาการอื่นๆ ของผิวที่เกิดจากแสงแดดที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระหว่าง 10.00 น. ถึง 16.00 น.เป็นช่วงเวลาเร่งรีบที่รังสีดวงอาทิตย์แรงที่สุด ๆ มีผลเสียทำให้ผิวไหม้แดด แดง แสบ ลอก (Sunburn)  กระตุ้นการผลิตเมลานินใหม่ที่มีสีน้ำตาลดำ ติดทนนาน และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งผิวหนัง หรือโรคผิวหนังอื่นๆ เช่น ฝ้า ผื่นแดงคันตามผิวหนัง




 L'Oréal Paris  Revitalift Clinical Vitamin C SPF 50+ Daily Anti-UV Fluid  ครีมกันแดดที่มีประโยชน์ในการดูแลผิวมีเนื้อเบาเป็นพิเศษ เกลี่ยง่าย ไม่มันเยิ้ม ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขนไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เนื้อครีมจะเป็นแบบเหลว





เนื้อครีมนั้นผสมผสานด้วยวิตามินซีและการปกป้อง SPF 50+ ไว้ในสูตรเดียวกัน ซึ่งวิตามินซีอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำและริ้วรอยต่างๆ เพิ่มความกระจ่างใส 
ร่วมกับวิตามินอีเป็นสารให้ความชุ่มชื้นทำให้ผิวนวล ซึ่งพบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว




และกรดไฮยาลูโรนิกช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและความกระจ่างใสยาวนาน 
สูตรฟลูอิดที่เป็นนวัตกรรมใหม่มีเทคโนโลยีเน็ตล็อค( NETLOCK) พื้นผิวที่มองไม่เห็น เนื้อสัมผัสบางเบาเป็นพิเศษดูดซับได้รวดเร็วปราศจากคราบขาว มีคุณสมบัติกันน้ำและปกปิดผิว ทำให้ผิวรู้สึกอ่อนนุ่มเปล่งประกาย มีการป้องกันรังสียูวีหลายชั้น สร้างฟิล์มป้องกันที่เป็นเนื้อเดียวกัน โดยมีการยึดเกาะกับผิวหนังมีความต้านทานต่อน้ำและการเสียดสีสูง 




การป้องกัน SPF50+  คือจะต้องปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์อย่างสม่ำเสมอ มากกว่าผิวปกติ 50 เท่า ความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวีบี (UVB) ได้ 98% แม้ว่าเราจะไม่ได้สัมผัสกับรังสียูวีเป็นเวลานานก็ตาม




วิธีการใช้ L'Oréal Paris  Revitalift Clinical Vitamin C SPF 50+ Daily Anti-UV Fluid  ที่ดีควรเขย่าขวด 
ก่อนทาในตอนเช้าก่อนเที่ยง หลังจากที่ทำความสะอาดดูแลผิวตามปกติก่อนแต่งหน้า จากนั้นก็ให้ทาให้ทั่วใบหน้า ลำคอ  และยังสามารถทาบนเปลือกตาและรอบดวงตา 





 L'Oréal Paris  Revitalift Clinical Vitamin C SPF 50+ Daily Anti-UV Fluid ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้าในช่วงกลางวัน ให้ความเปล่งประกายที่สมบูรณ์แบบ ผิวกระจ่างใส่ขึ้น ริ้วรอยดูแลจ่างลง  เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีคราบขาวระหว่างวัน 





ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF ส่วนใหญ่แล้วจะทำให้ผิวเหนียวและมีเหงื่อออก แต่ L'Oréal Paris  Revitalift Clinical Vitamin C SPF 50+ Daily Anti-UV Fluid ให้ความรู้สึกเบาอย่างไม่น่าเชื่อ




และแห้งภายในเวลาอันรวดเร็ว จึงใช้ได้ดีกับคนมีผิวมันหรือผิวผสม และยังเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย





Garnier Ambre Solaire Sensitive Advanced Spray Sun Cream SPF50+  แบบหัวฉีด ให้การปกป้องที่สูงมากต่อความเสียหายของผิวหนังที่เกิดจากแสงแดดและการถูกแดดเผา ด้วยเซราไมด์ที่ให้การปกป้องรังสี UVA และ UVB และการปกป้องผิวในทันที 




เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวธรรมดาและผิวแพ้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะปราศจากน้ำหอม กันน้ำได้ดีไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้  ปกป้องจากความเสียหายในระยะยาวและริ้วรอยผิวก่อนวัยอันเนื่องมาจากรังสี UVA ให้การปกป้องที่สมบูรณ์ แม้ว่าจะต้องเผชิญแสงแดดเป็นเวลานานก็ตาม  ได้รับการทดสอบภายใต้การควบคุมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง การวิจัยผลิตภัณฑ์กันแดด Garnier ได้รับการยอมรับจาก British Skin Foundation




วิธีการ ใช้ให้เขย่าก่อน แล้วฉีดบนฝ่ามือก่อนทา  แล้วทาให้ทั่ว ๆ บริเวณผิวที่ต้องการจะปกป้อง ซึ่งใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย เนื้อครีม เกลี่ยง่าย ซึมซับได้ดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ  




และครีมยังช่วยให้ผิวชุ่มชื่น รู้สึกนุ่มหลังใช้ ทาได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ ปกป้องผิวจากแสงแดดได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชอบไปทะเล และการว่ายน้ำ ช่วยให้การปกป้องได้เป็นอย่างดี