คำถามสามข้อที่อยากจะตอบ


คำถามแรก คนเรามีงานอดิเรกหลากหลายแตกต่างกันไป มีงานอดิเรกที่ชอบทำบ้างหรือไม่
งานอดิเรกที่ชอบมีหลายอย่าง หากมีเวลาว่างก็จะอ่านหนังสือ ทำอาหาร ทำขนม ทำงานประดิษฐ์ และถ่ายภาพ ซึ่งการถ่ายภาพนั้นเป็นเรื่องที่ชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก ๆ เคยมีความคิดที่อยากเรียน และอยากจะทำงานด้านนี้ แต่ตอนนั้นยังเด็กมากๆ ไม่มีความรู้ ไม่มีคนแนะนำ มีค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้เลยทำให้เปลี่ยนความคิดไปเรียนด้านอื่นแทน พอโตขึ้นมีการ มีงานทำจึงศึกษาเรื่องการถ่ายภาพด้วยตัวเองอย่างจริงจัง สานความฝันวัยเด็ก แต่ยังไม่ค่อยดีสักเท่าไร ความจำเกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพตัวแรกเป็นของ Kodak  ต้องซื้อฟิล์มมาใส่ พอเสร็จก็ต้องกรอกฟิล์มออกนำไปล้างที่ร้านถ่ายภาพ  



ขอบคุณภาพจาก Google


กล้องตัวนี้ใช้นานจนกระทั้งเริ่มมีกล้องดิจิตอลเข้ามาตีตลาด จึงเปลี่ยนจากกล้องฟิลม์เป็นกล้องดิจิตอล Olympus FE-120 แทนใช้ไปได้ไม่นานก็เปลี่ยนใหม่เป็นของ Canon IXUS 70 7.1MP Compact Digital Camera  ซึ่งกล้อง Canon ตอนนี้ก็ยังใช้ถ่ายรูปได้ดีอยู่ 




แต่ด้วยความที่อยากถ่ายภาพให้ออกมาชัดเจนและมีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้นเลยซื้อมา กล้องตัวใหม่ที่มีคุณภาพมากกว่ากล้องตัวเดิมที่มีอยู่เป็นของ Panasonic Lumix  เป็นกล้องที่ใช้ถ่ายภาพอยู่ในปัจจุบัน  





คำถามที่สอง เล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ทำให้จำไม่รู้ลืม
เรื่องประสบการณ์การท่องเที่ยวแต่ละสถานที่ ที่ได้เดินทางไปจะมีสิ่งที่น่าจดจำที่ไม่เหมือนกัน แต่ที่จำไม่รู้ลืมก็คงเป็นการไปเที่ยวสหรัฐอเมริกา จริงๆ แล้วครั้งนี้ไม่ใช้ครั้งแรกที่ได้เที่ยวสหรัฐอเมริกา แต่ครั้งนี้มีประสบการณ์ทำให้เกือบจะตกเครื่อง หลังจากที่ลงเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์ล็อตต์/ดักลาส  ( Charlotte Douglas International Airport) ใน North Carolina จะต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเพื่อจะไปขึ้นเครื่องต่อไปยังอีกเมืองหนึ่ง 



ขอบคุณภาพจาก Google


การตรวคนเข้าเมืองของสนามบินชาร์ลอตต์ (Charlotte) เป็นไปอย่างช้ามาก แถวยาวสุด ๆ  เราว่าเรารีบเดินวิ่งมาต่อแถว ไม่ทำตัวโอ้เอ้ แต่คิวกว่าจะมาถึงก็ใช้เวลานาน จนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สนามบินที่ยื่นจัดแถวว่าขอเข้าไปตรวจก่อนได้จะไม่ ซึ่งตอนนั้นอยู่ในแถวเป็นคนที่ 3 เราแจ้งว่าอีกประมาณ 20 นาที Gate ก็จะปิดพร้อมทั้งเอาตั๋วของสายการบินให้ดูเวลาว่าจริงอย่างที่พูด แต่เจ้าหน้าที่จัดแถวตรงตรวจคนเข้าเมือง พูดมาออกมาว่าให้เราไปติดต่อสายการบินเอง เค้าไม่ได้รับรู้ด้วยโอโหเลย...โกรธนะเนี้ย เข้าใจว่าไม่ใช้เรื่องของเค้า หน้าที่แค่จัดระเบียบคนให้เข้าไปตามช่องตรวจคนเข้าเมือง เราพูดเพื่อจะที่ขอความเห็นใจ ขอเข้าไปก่อน ไม่ได้พูดต่อตัดประโยคพูดไปเลย ดีที่โชคช่วยคนเจอฝรั่งในแถวใจดีเป็นกลุ่มเด็ยวัยรุ่นด้านหน้าได้ยินหั่นมองเรายิ้ม ๆ บอกกับเพื่อนของเธอ เพื่อนๆ เธอ เลยให้เราไปยืนหน้าแถว เราจึงได้เข้าไป ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ก็ซักถาม โน่นนี้ ปากตอบคำถาม ตาก็มองเวลาไปด้วย พอเสร็จก็วิ่งซิ รออะไร



ขอบคุณภาพจาก Google

เราวิ่งอย่างรวดเร็วไปที่เคาเตอร์สายการบินจัดการโหลดกระเป๋าเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เป็นไรยังมีเวลา พอโหลดกระเป๋าเสร็จ เราก็ทำตัวเป็นนักกีฬาวิ่งเร็วอีกครั้ง วิ่งไปยังGate พร้อม ๆ กับผู้โดยสารอีกกลุ่มของสายการบินเดียวกับเรา พอไปถึงGate ยังเหลือเวลาอีก 5 นาที ก่อนที่จะปิด เหนื่อยมากๆ ชีวิตนี้ไม่เคยวิ่งเร็วแบบนี้มาก่อนเลย เหมือนใจจะขาดให้ได้ นั้นเป็นประสบการณ์ที่จดจำที่สุดของการไปเที่ยวสหรัฐอเมริกาในครั้งนั้น




คำถามที่สาม ที่บ้านมีหนังสืออยู่เยอะมาก ชอบเล่มไหนเป็นพิเศษบ้าง






หนังสือเล่มที่ชอบเป็นพิเศษคงเป็นตำราทำขนมอบของ Mary Berry ชอบวิธีการถ่ายทอด อ่านทำความเข้าใจง่าย เวลาใช้สูตรของเธอทำออกมาแล้วไม่มีผิดหวัง เรียกว่าตรงตามปก 




หนังสืออ่านเล่นอ่านได้หมดไม่เลือกว่าเป็นหนังสืออ่านเล่นชนิดไหน ไม่มีนักเขียนในดวงใจไม่จำกัดว่าจะเป็นนวนิยาย เรื่องสั้น เรื่องยาว รักหวานแหวว รักโรแมนติก คอมเมดี้ เศร้า แฟนตาซี ผจญภัย วิทยาศาสตร์ สยองขวัญ ซ่อนเงื่อน สอบสวน อ่านได้หมด 




อย่าง Harry Potter อ่านแล้วก็ชอบนะ เป็นนวนิยายแฟนตาซีมีทั้งหมด7 เล่มเขียนโดย J. K. Rowling เป็นเรื่องราวชีวิตของพ่อมดหนุ่มที่ชื่อว่า Harry Potter และเพื่อนของเขาHermione Granger and Ron Weasley ทั้งหมดเป็นนักเรียนที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ โครงเรื่องหลักเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของ Harryกับ Lord Voldemort พ่อมดศาสตร์มืดที่ตั้งใจจะเป็นอมตะ ล้มล้างองค์กปกครอง พ่อมดที่เรียกว่ากระทรวงเวทมนตร์ และปราบพ่อมดและมักเกิ้ลทั้งหมด 




พอมาทำเป็นหนังก็ตามดูจนครบทุกตอน จากนั้นก็ตามรอย  Harry Potter  พ่อมดตัวน้อยทำตัวเป็นสาวกกับเค้าด้วย